นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) รวม 28 จังหวัด 160 อำเภอ 844 ตำบล 5 เทศบาล 7,306 หมู่บ้าน/ชุมชน แยกเป็นภาคเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ และพิษณุโลก รวม 45 อำเภอ 220 ตำบล 1,790 หมู่บ้าน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และศรีสะเกษ รวม 73 อำเภอ 423 ตำบล 2 เทศบาล 3,939 หมู่บ้าน
ภาคกลางและภาคตะวันออก 9 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี และชลบุรี รวม 41 อำเภอ 190 ตำบล 2 เทศบาล 1,519 หมู่บ้าน/ชุมชน
ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สงขลา รวม 1 อำเภอ 11 ตำบล 1 เทศบาล 58 หมู่บ้าน/ชุมชน
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงของพื้นที่ทั้งการสูบส่งน้ำ การขุดบ่อน้ำบาดาล และจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน และจุดแจกจ่ายน้ำตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดฤดูแล้ง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และศรีสะเกษ รวม 73 อำเภอ 423 ตำบล 2 เทศบาล 3,939 หมู่บ้าน
ภาคกลางและภาคตะวันออก 9 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี และชลบุรี รวม 41 อำเภอ 190 ตำบล 2 เทศบาล 1,519 หมู่บ้าน/ชุมชน
ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ สงขลา รวม 1 อำเภอ 11 ตำบล 1 เทศบาล 58 หมู่บ้าน/ชุมชน
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงของพื้นที่ทั้งการสูบส่งน้ำ การขุดบ่อน้ำบาดาล และจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน และจุดแจกจ่ายน้ำตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดฤดูแล้ง