นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (11 ก.พ.) มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 21 จังหวัด รวม 127 อำเภอ 674 ตำบล 5,809 หมู่บ้าน/ชุมชน แยกเป็น ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย และเพชรบูรณ์ รวม 37 อำเภอ 169 ตำบล 1,211 หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนครกาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ และชัยภูมิ รวม 57 อำเภอ 341 ตำบล 3,247 หมู่บ้าน ภาคกลาง 6 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 33 อำเภอ 164 ตำบล 1,351 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงของพื้นที่ ทั้งการสูบส่งน้ำ การขุดบ่อน้ำตื้น การขุดบ่อน้ำบาดาล การเป่าล้างบ่อบาดาลและจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน และจุดแจกจ่ายน้ำตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดฤดูแล้ง