นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า มีจังหวัดประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) รวม 27 จังหวัด 158 อำเภอ 836 ตำบล 5 เทศบาล 7,262 หมู่บ้าน/ชุมชน แยกเป็นภาคเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ และ จ.เชียงใหม่ รวม 43 อำเภอ 212 ตำบล 1,746 หมู่บ้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ จ.หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และ จ.ศรีสะเกษ รวม 73 อำเภอ 423 ตำบล 2 เทศบาล 3,939 หมู่บ้าน ภาคกลางและภาคตะวันออก 9 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี และจ.ชลบุรี รวม 41 อำเภอ 190 ตำบล 2 เทศบาล 1,519 หมู่บ้าน/ชุมชน ภาคใต้ ได้แก่ สงขลา รวม 1 อำเภอ 11 ตำบล 1เทศบาล 58 หมู่บ้าน/ชุมชน
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง โดยระดมสรรพกำลัง เครื่องจักรกล ยานพาหนะ และอุปกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหา ให้สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงของพื้นที่ ทั้งการสูบส่งน้ำ การขุดบ่อน้ำตื้น การขุดบ่อน้ำบาดาล การเป่าล้างบ่อบาดาล และจัดรถบรรทุกน้ำนำน้ำไปเติมยังถังน้ำกลางประจำหมู่บ้าน และจุดแจกจ่ายน้ำตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชน มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดฤดูแล้ง