เฟซบุ๊ก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ Fan Page ระบุว่า ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปี ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย เริ่มจากใต้สุดของประเทศไทย ณ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นดวงอาทิตย์จะโคจรตั้งฉากกับพื้นที่เหนือขึ้นมาเรื่อยๆ และจะตั้งฉากกับพื้นที่เหนือสุดของประเทศไทย ณ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563
สำหรับกรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์จะตั้งฉากเหนือศรีษะพอดี ในวันที่ 26 เมษายน 2563 เวลาประมาณ 12.16 น. เมื่อดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลก เงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดี ไม่มีเงาทอดออกมา จึงทำให้พื้นโลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิจะสูงที่สุดหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณฝน เมฆ อิทธิพลจากมรสุม ความร้อนสะสมในบรรยากาศ ฯลฯ ก็อาจส่งผลต่ออุณหภูมิได้
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน ระหว่างแนวละติจูด 5-20 องศาเหนือ ทำให้ประเทศที่อยู่ในบริเวณนี้จะมีวันที่ดวงอาทิตย์ผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะมากที่สุดปีละ 2 ครั้ง โดยดวงอาทิตย์จะโคจรพาดผ่านแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้แต่ละจังหวัดของประเทศไทยเห็นดวงอาทิตย์ผ่านเหนือศีรษะไม่พร้อมกัน นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าติดตามในทุกๆ ปี
สำหรับกรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์จะตั้งฉากเหนือศรีษะพอดี ในวันที่ 26 เมษายน 2563 เวลาประมาณ 12.16 น. เมื่อดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลก เงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดี ไม่มีเงาทอดออกมา จึงทำให้พื้นโลกได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิจะสูงที่สุดหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณฝน เมฆ อิทธิพลจากมรสุม ความร้อนสะสมในบรรยากาศ ฯลฯ ก็อาจส่งผลต่ออุณหภูมิได้
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อน ระหว่างแนวละติจูด 5-20 องศาเหนือ ทำให้ประเทศที่อยู่ในบริเวณนี้จะมีวันที่ดวงอาทิตย์ผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะมากที่สุดปีละ 2 ครั้ง โดยดวงอาทิตย์จะโคจรพาดผ่านแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้แต่ละจังหวัดของประเทศไทยเห็นดวงอาทิตย์ผ่านเหนือศีรษะไม่พร้อมกัน นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าติดตามในทุกๆ ปี