xs
xsm
sm
md
lg

"สุชาติ"เสนอให้ลูกจ้างประกันตนกู้สูงสุด 50% ต่อลมหายใจสู้ภัยโควิด-19

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ในฐานะประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ขอเสนอแนวคิดต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อช่วยเหลือประชาชนกลุ่มแรงงานที่ประกันตนทั่วประเทศจำนวน 17 ล้านคน ที่สามารถกู้เงินได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินที่เก็บจากลูกจ้างร้อยละ 5 และนายจ้างจ่ายสมทบอีกร้อยละ 5 สะสมไว้ในกองทุนประกันสังคม โดยให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ของลูกจ้างต่อธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ ที่จะประสานเข้าร่วมมาตรการนี้

ตัวอย่างเช่น ลูกจ้าง และนายจ้างส่งเงินเข้าไปในระบบแล้ว จำนวน 2 แสนบาท ลูกจ้างสามารถกู้เงินได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 50 หรือจำนวน 1 แสนบาท ขณะเดียวกัน ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ ยังขอให้ปลอดเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 1 ปี จากนั้นในปีที่ 2 เป็นต้นไป ให้ลูกจ้างเลือกว่าจะจ่ายเงินต้นเท่านั้น ส่วนดอกเบี้ยให้คิดในอัตราบวกจากเงินฝากประจำไป 1% แก่ธนาคาร หรือจะเลือกไม่จ่ายเงินต้นคืน ให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ และค่อยไปหักลบกลบหนี้ตอนอายุ 55 ปี ที่ครบกำหนดว่าสำนักงานประกันสังคมจะคืนเงินให้ลูกจ้างแทน อย่างไรก็ตาม ต้องให้ศึกษาข้อกฎหมายข้อบังคับของประกันสังคมว่าทำได้หรือแก้ไขได้ขนาดไหน เพราะคนที่อยู่ในกระทรวงแรงงานต้องหารือกันให้ตกผลึกในเรื่องข้อกฎหมายอีกครั้ง

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการใช้สิทธิ์นั้น สำนักงานประกันสังคมจะนำข้อมูลของลูกจ้างในระบบประกันตนจำนวน 17 ล้านคน ไปมอบให้ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน จากนั้นจะเปิดแอปพลิเคชันให้ลูกจ้างมาตรวจสอบและใช้สิทธิ์เพื่อกู้เงินตามความต้องการ แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 50 ส่วนที่เกรงว่าลูกจ้างจะเบี้ยวหรือไม่ชำระหนี้นั้น ไม่ต้องกังวล เพราะเงินของลูกจ้างอยู่ในระบบประกันสังคมอยู่แล้ว หากผู้ใดไม่ชำระหนี้ก็สามารถหักเงินที่สะสมไปชำระเงินกู้ให้แก่ธนาคารของรัฐบาลทั้งสองแห่งแทนได้ทันที จึงไม่เกิดหนี้เสียเป็นภาระให้แก่ผู้ใด

เชื่อว่าแนวทางนี้จะทำให้ลูกจ้างที่ประกันตนจำนวน 17 ล้านคน ที่กำลังเป็นทุกข์ ได้เกิดความหวังในชีวิตอีกครั้ง เปรียบดังเแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ มีเงินให้สามารถต่อลมหายใจตัวเองและครอบครัวออกไปได้อีก 4-6 เดือนข้างหน้า หากสถานการณ์โควิด-19 ยังยืดเยื้อ ขณะเดียวกัน แนวทางนี้ยังช่วยให้เกิดเงินสะพัดหมุนเวียนในระบบอีกหลายรอบ ช่วยพยุงเศรษฐกิจที่หยุดชะงักควบคู่ไปด้วย