นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกว่า สนค. ประเมินการส่งออกไทยจะกลับมาขยายตัวได้ในปี 2563 จากปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ทั้งเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.3 ในปี 2563 และเห็นสัญญาณว่าการค้าโลกกำลังผ่านจุดต่ำสุดจากกิจกรรมการผลิตในหลายสาขา ท่าทีความพร้อมในการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของหลายประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ อาทิ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกและราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่เริ่มผ่อนคลายจากการลงนามข้อตกลงทางการค้าระยะแรก สถานการณ์ Brexit มีความชัดเจนและค่าเงินบาทเริ่มมีแนวโน้มอ่อนค่าลงโดยเดือนมกราคม 2563 ค่าเงินบาทเฉลี่ยอยู่ที่ 30.44 บาทต่อดอลลาร์ กลับมาอ่อนค่าในรอบ 9 เดือน
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์ของ สนค. พบว่า ยังมีสินค้าไทยมากกว่า 30 รายการ ที่ควรเร่งผลักดันเพื่อให้การส่งออกไทยกลับมาขยายตัวในปี 2563 โดยครอบคลุมสินค้าเกษตรและอาหาร และสินค้าอุตสาหกรรมตามความต้องการของตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร อาทิ ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง ไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เป็นต้น
สำหรับประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศจีนนั้น สนค. คาดว่า ยังไม่น่ากระทบต่อการส่งออกไทยในระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารที่มีมูลค่าสูงในตลาดจีน เพราะมีความต้องการซื้อสินค้าอาหารไทยที่มีความปลอดภัยและคุณภาพดีอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ไม่ให้การค้าในภูมิภาคมีการชะงักส่วนประเด็นสินค้าส่งออก 573 รายการ ถูกระงับสิทธิ GSP โดยสหรัฐฯ นั้น ยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่และเตรียมมาตรการรองรับในทุกกรณีอย่างรัดกุมเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ส่งออกน้อยที่สุด