นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 2096/2562 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2562 โดยวินิจฉัยว่า คลองลาดพร้าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่เป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ตาม ม.1304(2) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่ได้เป็นที่ราชพัสดุตาม พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ 2518 แต่อย่างใดนั้น ถือเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ที่ชี้ให้เห็นว่า การที่กรมธนารักษ์นำที่ดินริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร และริมคลองต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ มาให้สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงและเอกชนอื่นๆ เช่าเพื่อสร้างบ้านมั่นคงปลูกอาศัยระยะเวลา 30 ปี โดยเรียกค่าเช่า หรือเรียกเก็บผลประโยชน์มาอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นการใช้อำนาจไปโดยที่ตนไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังใช้อำนาจไปรังแกชาวบ้านริมคลอง กล่าวหาชาวบ้านบุกรุกที่ดินของกรมธนารักษ์และทำให้ที่ดินเสียหาย โดยการแจ้งความดำเนินคดีเอากับชาวบ้านที่ไม่เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงกว่า 70 ราย เพราะไม่อยากเป็นหนี้หัวโต และคดียังสู้กันอยู่ในศาลอาญา ดังนั้น เมื่อศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยและมีคำพิพากษาว่าที่ดินริมคลองลาดพร้าวไม่ได้เป็นที่ราชพัสดุแล้ว กรมธนารักษ์จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในที่ดินดังกล่าว แต่ที่ผ่านมากลับใช้อำนาจไปให้เช่าที่ดินและเก็บผลประโยชน์เอากับชาวบ้านหรือสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคง จึงถือเป็นการ "ทุจริตต่อหน้าที่"โดยชัดแจ้ง ชาวบ้านริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากรจึงไม่อาจยอมรับได้ จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนสอบสวนเอาผิดอธิบดีกรมธนารักษ์ และเอาผิดนายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายให้กรมธนารักษ์นำที่ดินริมคลองมาให้เช่าสร้างบ้านมั่นคง โดยมีหลักฐานที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานยกเสาเข็มชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผู้ใช้ ผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.83-89 ด้วย โดยสมาคมฯจะนำชาวบ้านประมาณ 300 คนเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ในวันพฤหัสที่ 30 มกราคมนี้ เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังใช้อำนาจไปรังแกชาวบ้านริมคลอง กล่าวหาชาวบ้านบุกรุกที่ดินของกรมธนารักษ์และทำให้ที่ดินเสียหาย โดยการแจ้งความดำเนินคดีเอากับชาวบ้านที่ไม่เข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคงกว่า 70 ราย เพราะไม่อยากเป็นหนี้หัวโต และคดียังสู้กันอยู่ในศาลอาญา ดังนั้น เมื่อศาลปกครองกลางได้วินิจฉัยและมีคำพิพากษาว่าที่ดินริมคลองลาดพร้าวไม่ได้เป็นที่ราชพัสดุแล้ว กรมธนารักษ์จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในที่ดินดังกล่าว แต่ที่ผ่านมากลับใช้อำนาจไปให้เช่าที่ดินและเก็บผลประโยชน์เอากับชาวบ้านหรือสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคง จึงถือเป็นการ "ทุจริตต่อหน้าที่"โดยชัดแจ้ง ชาวบ้านริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากรจึงไม่อาจยอมรับได้ จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อไต่สวนสอบสวนเอาผิดอธิบดีกรมธนารักษ์ และเอาผิดนายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายให้กรมธนารักษ์นำที่ดินริมคลองมาให้เช่าสร้างบ้านมั่นคง โดยมีหลักฐานที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานยกเสาเข็มชุมชนประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นผู้ใช้ ผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.83-89 ด้วย โดยสมาคมฯจะนำชาวบ้านประมาณ 300 คนเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ในวันพฤหัสที่ 30 มกราคมนี้ เวลา 10.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี
