xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ สั่งยกระดับ PMOC ติดตามสถานการณ์ไวรัสโคโรนาและ PM 2.5 ใกล้ชิด ยืนยันดำเนินงานตามมาตรฐานสากล

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์กรณีไวรัสโคโรนา และฝุ่น PM 2.5 ระบุว่า

"สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทุกท่าน ตามที่ทุกท่านได้ติดตามข้อมูลข่าวสารมาอย่างต่อเนื่อง กรณีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ณ เวลานี้ การคัดกรองและการเฝ้าระวังเป็นไปอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขเป็นระดับ 3 ให้สอดคล้องกับความรุนแรงของสถานการณ์ เพื่อติดตามสถานการณ์โรคทั้งในประเทศและต่างประเทศแบบใกล้ชิด และกำหนดมาตรการต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม รวมทั้งสามารถบริหารจัดการทรัพยากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน และทางทหาร ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเฝ้าระวัง ค้นหา และคัดกรอง ณ ช่องทางเข้า-ออกประเทศ ทั้ง 5 สนามบินและช่องทางอื่นๆ ทั้งทางบก บริเวณชายแดน และทางเรือ ณ ท่าเรือต่างๆ ด้วย เพื่อคัดกรองผู้เดินทางมาจากทุกพื้นที่เสี่ยง อาทิ เมืองอู่ฮั่น กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง และเมืองอื่นๆ ที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน

นอกจากนี้ ยังมีความพร้อมในการรักษา ส่งต่อ และการจัดตั้งพื้นที่ควบคุมเมื่อมีความจำเป็น ที่สำคัญรัฐบาลได้บูรณาการการทำงานร่วมกันของกระทรวงคมนาคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งกรมประชาสัมพันธ์ ในการรับมือ ป้องกัน และสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง แม่นยำ ให้กับประชาชนชาวไทยและชาวต่างประเทศในบ้านเรา โดยผมได้เน้นย้ำการชี้แจงสถานการณ์ตามข้อเท็จจริง โดยไม่ปิดบังข้อมูลใดๆ และยึดหลักการที่ว่า "ชีวิตและสุขภาพของประชาชนสำคัญที่สุด"

ขอให้มั่นใจว่า การดำเนินงานของรัฐบาลอยู่ในระดับมาตรฐานสากล การคัดกรองได้ผลดี พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสนี้ 8 ราย ทั้งหมดติดเชื้อจากประเทศจีน โดย 5 รายแรกหายแล้ว แพทย์ให้กลับบ้านได้ ซึ่งถือว่าเป็นการรักษาที่ได้ผลดี เหลือผู้ป่วยอีก 3 ราย ที่ยังคงรับการรักษาในโรงพยาบาลของเรา สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ต้องไม่ประมาท เราต้องช่วยกันสอดส่อง เป็นหูเป็นตาในการเฝ้าระวังและดูแลตัวเองด้วย ให้ความร่วมมือกับทางการ

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ เป็นโรคที่ป้องกันได้ โดยขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกันกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ เน้นดูแลสุขภาพอนามัยเรื่องกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ รัฐบาลขอยืนยันในความพร้อมของระบบการแพทย์และสาธารณสุขที่มีมาตรการเฝ้าระวังและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดอันดับ 6 จาก 195 ประเทศ จากการจัดอันดับโดยมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจของทุกคน ว่าเราเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

สำหรับการเตรียมอพยพชาวไทยในพื้นที่เสี่ยง ณ เมืองต่างๆ จากประเทศจีนนั้น ขณะนี้กระทรวงกลาโหมมีความพร้อมที่จะปฏิบัติได้ทันทีในโอกาสแรกที่ได้รับการอนุญาตจากประเทศจีน ซึ่งอยู่ในระหว่างการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดของกระทรวงการต่างประเทศ ปัจจุบันเราสามารถติดต่อได้กับทุกคน ทั้งในลักษณะบุคคลและการแจ้งการปฏิบัติเป็นกลุ่ม

สิ่งที่น่าห่วงใยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโรคระบาด ก็คือข่าวปลอม รวมทั้งแหล่งข่าวที่หวังดีแต่อาจจะคลาดเคลื่อน รัฐบาลได้วางแนวทางการรับมือในการกำหนดช่องทางสื่อสารหลัก เพื่อให้เกิดเอกภาพและน่าเชื่อถือได้ที่สุดจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้โดยตรง สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ผมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทุกคน สื่อโซเชียล ในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกครั้งก่อนที่จะมีการแชร์หรือเผยแพร่ออกไป เนื่องจากจะสร้างความสับสนและตื่นตระหนกในภาพรวมของประเทศได้

ส่วนมาตรการในระยะยาว และคำแนะนำในการปฏิบัติตัวของแต่ละคน และข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบันที่สุดในรายละเอียดอื่นๆ พี่น้องประชาชนสามารถติดตามข่าวสารได้อย่างต่อเนื่องจากศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการแถลงข่าวทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายนะครับ

ในส่วนของสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการกำหนดมาตรการและแนวทางการป้องกันมาอย่างต่อเนื่อง และได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติ ออกมาตรการและแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การป้องกัน และการลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง หรือแหล่งกำเนิด และการเพิ่มประสิทธิภาพระบบ เครื่องมือ และกลไกการบริหารจัดการทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม และอื่นๆ ทั้งหมดถูกกำหนดอยู่ในแผนปฏิบัติการระยะสั้นและระยะยาว

รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ใช้ระบบบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Single Command ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเข้มงวดในการกำกับดูแล ควบคุม แหล่งกำเนิดฝุ่นละออง ทั้งจากยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการเผาในที่โล่ง โดยให้รายงานผลการดำเนินการในการแก้ไขปัญหาไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบเป็นประจำทุกวัน ถึงผลการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติรายกิจกรรม

สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น รัฐบาลมีแผนเร่งการพัฒนาระบบโครงข่ายขนส่งสาธาระให้เชื่อมโยงกันทุกระบบ การปรับปรุงมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ใหม่ รวมถึงรถโดยสารสาธารณะ การปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง และส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับกำชับให้หน่วยงานเร่งรัดการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด หรือให้แล้วเสร็จก่อนกำหนด

สำหรับภาคการเกษตร จะต้องมีการรณรงค์ให้ใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุการเกษตร เพื่อไม่ให้มีการเผา และส่งเสริมเกษตรกรที่ไม่ใช้วิธีการเผา การปรับเปลี่ยนร่องการปลูกพืชการเกษตร ให้สามารถใช้เครื่องมือได้ โดยเฉพาะอ้อย โรงงานเอกชนต้องร่วมมือกันในการจัดหาเครื่องจักรที่มีราคาสูงมาให้บริการกับประชาชนและเกษตรกรให้ใช้ได้ นอกเหนือจากการสนับสนุนจากภาครัฐ

สำหรับภาคอุตสาหกรรม จะต้องมีการปรับปรุงมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากโรงงานอุตสาหกรรมให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล และกำกับดูแล ควบคุมการระบายมลพิษอย่างเข้มงวด

ทางด้านสาธารณสุข ได้มีการเปิดคลินิกมลพิษ เพื่อรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง มีการขอความร่วมมือจัดห้องสะอาด หรือ Clean Room ตามศูนย์เด็กเล็ก บ้านพักคนชรา และโรงพยาบาลทั่วประเทศ รวมไปถึงการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนสามารถประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพด้วยตนเอง พร้อมทั้งจัดทำแผนการเพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วประเทศ

พี่น้องประชาชนครับ แม้ช่วงนี้สถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และในเดือนกุมภาพันธ์ ที่เป็นช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน อากาศจะแปรปรวน ความกดอากาศอ่อนกำลังลง ก็จะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่เราจะต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรายละเอียดมาตรการตามแผนปฏิบัติการที่ได้กล่าวข้างต้นนั้น พี่น้องประชาชนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ กรมควบคุมมลพิษ

สุดท้ายนี้ ผมขอเรียนว่า รัฐบาลจะยกระดับให้ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี (PMOC) ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์ รวมทั้งการสั่งการต่างๆ ทั้งในเรื่องของไวรัสโคโรนา และฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างเป็นเอกภาพ โดยผมจะกำกับดูแลเองอย่างใกล้ชิด เพื่อหาข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการของทุกกระทรวง รายกิจกรรม เพื่อจะสามารถสั่งการเพิ่มเติมได้ทันที จากมาตรฐานตามกฎหมายที่กำหนดไว้แล้วเดิม เมื่อจำเป็น โดยต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาของประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตามหลักการสากล อย่างเข้มงวด และปฏิบัติได้จริง

ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือในการป้องกัน แก้ไข ทุกปัญหาของประเทศด้วยดีมาโดยตลอด ขอให้พี่น้องประชาชนชาวไทยรักษาสุขภาพ และช่วยกันดูแลบ้านเมืองของเราให้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ กลับสู่สถานการณ์ปกติให้ได้โดยเร็ว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปลอดภัยของทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ สวัสดีครับ"