นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ส.ป.ก. ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรว่า การถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย หากส่งคืนกลับให้ ส.ป.ก.ถือว่าตรงตามเจตนารมณ์แล้ว เพื่อให้ ส.ป.ก. จัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรต่อไป ไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย ส.ป.ก.นั้น โดยคำชี้แจงดังกล่าวเป็นการย้อนแย้งต่อ ม.24 ของ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2518 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ส.ป.ก.ทั้งหมดเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้นเมื่อ ส.ป.ก.พิสูจน์แล้วว่า ผู้ที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ไม่เป็นไปตามกฎหมายตาม ม.26(4) เนื่องจากมีที่ดินบางส่วนเป็นป่าสงวนแห่งชาติที่ ส.ป.ก.ได้รับมอบมาจากกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จึงเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติด้วย โดยเฉพาะที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ซึ่งยอมรับเองว่า “ได้ที่ดินดังกล่าวมานานแล้ว เป็นที่ดินที่รัฐ โดยกรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าไปทำกินได้ ทำกินมานานแล้ว และได้เสียภาษีดอกหญ้ามานานกว่า 10 ปี และเสียทุกครั้งที่เขาเรียกเก็บ” ซึ่งการครอบครองที่ดินมือเปล่า ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ รองรับ จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 (30) ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น มาตรา 55 ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น สอดคล้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15189/2558
นอกจากนั้น น.ส.ปารีณา ยังขาดคุณสมบัติในการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. มาตั้งแต่ต้นเนื่องจากมิได้เป็นเกษตรกร ไม่ได้จบการศึกษาด้านเกษตรกรรม และไม่เป็นผู้ยากจนที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปีตามกฎหมายของ ส.ป.ก. ดังนั้นแม้ น.ส.ปารีณา จะยินยอมคืนที่ดินทั้งหมดให้ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้เกษตรกรที่แท้จริงตามกฎหมายแล้ว ก็ยังอาจถือได้ว่าได้เคยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ 2507 และกฎหมายป่าไม้ 2484 ประกอบกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2518 ซึ่งถือว่า “เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว” พนักงานเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องดำเนินการเอาผิด น.ส.ปารีณาตามกฎหมายข้างต้น แต่หากยังพยายามที่จะช่วยเหลือกันและกัน อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ได้ ซึ่งเรื่องนี้สมาคมฯจะนำความขึ้นฟ้องต่อศาลเพื่อพิสูจน์ความจริงกันต่อไป