นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 11 หมู่ 12 ต.รางบัว และหมู่ 10 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่า ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายจากการที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรางบัว ได้อนุญาตให้อดีตกำนัน ตำบลรางบัว และนายทุนเข้ามาหลอกกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะเข้ามาทำรีสอร์ต แต่ปรากฏว่ากลายเป็นการเข้ามาทำฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ โดยเริ่มปล่อยเลี้ยงแล้วกว่า 5 แสนตัว ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็น น้ำเสีย และมีความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคไข้หวัดนก หรือเชื้อ H5N1 และเชื้อ H5N8
ทั้งนี้ ตามข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลรางบัว เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงและปล่อยสัตว์ พ.ศ.2555 และข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตําบลรางบัว เรื่อง การควบคุมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ.2552 ประกอบ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 กำหนดไว้ชัดเจนว่า "สถานที่เลี้ยงสัตวต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาคมหมู่บ้านหรือแหล่งชุมชนในรัศมี 1,500 เมตร เป็นจํานวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของครัวเรือน และต้องไม่ก่อให้เกิดเหตุรําคาญต่อประชาชน หรือแหล่งชุมชนใกล้เคียง" แต่ปรากฏว่าฟาร์มเลี้ยงไก่ทั้ง 2 รายมีการจัดทำประชาคม แต่ชาวบ้านไม่เห็นชอบให้ดำเนินการได้ แต่ทว่านายก อบต.รางบัว กลับให้ใบอนุญาตให้เลี้ยงได้ จึงถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และละเลยการปฏิบัติหน้าที่โดยชัดแจ้ง
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯ และชาวบ้าน รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ดังกล่าวนับร้อยคน จึงรวมตัวกันเดินทางไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองเพชรบุรี เพื่อยื่นฟ้องนายก อบต.รางบัว ปศุสัตว์จังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ศาลสั่งระงับและเพิกถอนฟาร์มเลี้ยงไก่ดังกล่าวต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นฟ้องในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2562 เวลา 10.30 น. ณ ศาลปกครองเพชรบุรี ถนนเพชรเกษม ตำบลชะอำ อำเภอชะอำ เพชรบุรี