พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีการเชิญชวนกลุ่มรถบรรทุกมารวมตัวกันที่ สภ.สามร้อยยอด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น ในโลกโซลเชียลมีเดียนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ได้กำชับให้ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เร่งรายงานผลการตรวจสอบมาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับสอบปากคำพยานอื่นๆ เพิ่มเติม
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ขอความร่วมมือไปยังกลุ่มชาวสิบล้อที่จะมาเดินขบวน โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อย่าออกมาเดินขบวน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรและปัญหาด้านอื่นๆ ตามมา ขอให้เชื่อถือในขั้นตอนการตรวจข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะสามารถทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและความชัดเจนได้ภายในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหากผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกไม่ผิด พนักงานสอบสวนก็จะสั่งไม่ฟ้องในสำนวนการสอบสวนตามกฎหมาย ประกอบกับหากผลการตรวจสอบจ้อเท็จจริงพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำผิด จะเข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อาญา มาตรา157 โทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตาม ป.อาญา มาตรา 310 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ตาม ป.อาญา มาตรา 172 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ขอความร่วมมือไปยังกลุ่มชาวสิบล้อที่จะมาเดินขบวน โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อย่าออกมาเดินขบวน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรและปัญหาด้านอื่นๆ ตามมา ขอให้เชื่อถือในขั้นตอนการตรวจข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะสามารถทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและความชัดเจนได้ภายในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหากผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกไม่ผิด พนักงานสอบสวนก็จะสั่งไม่ฟ้องในสำนวนการสอบสวนตามกฎหมาย ประกอบกับหากผลการตรวจสอบจ้อเท็จจริงพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำผิด จะเข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อาญา มาตรา157 โทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตาม ป.อาญา มาตรา 310 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ตาม ป.อาญา มาตรา 172 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ