โฆษก ตร. ยันให้ความเป็นธรรมสิบล้อถูกยัดยา วอนสิงห์รถบรรทุกอย่าออกมาเดินขบวน สัปดาห์หน้ารู้ผลตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้าตร.ผิดโทษหนักหลายกระทง
วันนี้(24 พ.ย.)พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีที่มีการเชิญชวน กลุ่มรถบรรทุกมารวมตัวกันที่ สภ.สามร้อยยอด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมในเรื่องถูกยัดยา ตามที่ปรากฎในโลกโซเชียลมีเดีย ว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ได้กำชับให้ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เร่งรายงานผลการตรวจสอบมาภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับสอบปากคำพยานอื่นๆ เพิ่มเติม
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ขอความร่วมมือไปยัง กลุ่มชาวสิบล้อที่จะมาเดินขบวน โปรดให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อย่าออกมาเดินขบวน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาการจราจรและปัญหาด้านอื่นๆตามมา ขอให้เชื่อถือในขั้นตอนในการตรวจข้อเท็จจริง โดยคาดว่าจะสามารถทราบผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและความชัดเจนได้ภายในสัปดาห์หน้า ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมในเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งหากผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกไม่ผิด พนักงานสอบสวนก็จะสั่งไม่ฟ้อง ในสำนวนการสอบสวนตามกฎหมาย
ประกอบกับ หากผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระทำผิด จะเข้าข่ายความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม ป.อาญา มาตรา157 โทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ“ , “หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตาม ป.อาญา มาตรา 310 โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ“ และ “แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ตาม ป.อาญา มาตรา 172 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ“