นายกิตติวัฐน์ แกนนำกลุ่มผู้เสียหาย พร้อมผู้เสียหายประมาณ 50 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ร.ต.อ.ธรรศ เลาห์ทวี รองผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไป) จากกรณีที่มีบริษัทแห่งหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง รับจ้างโปรโมต กดไลก์ กดแชร์ สินค้าแบรนด์ต่าง ๆ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ในชื่อของ Nice Review (NRV) โดยมีการวางเงินลงทุนประกันความเสียหายกับบริษัท จำนวน 1 พอร์ต ต่อ 2 หมื่นบาท จะได้รับผลตอบแทนวันละ 200 บาท ซึ่งรายได้สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หักภาษี 3% ณ ที่จ่ายได้จริง จึงมีประชาชนหลงเชื่อจำนวนมาก
เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 800 คน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวเปิดทำการเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี ก่อนที่เดือนกันยายน-ตุลาคม ที่ผ่านมา จะเริ่มบ่ายเบี่ยง เลื่อนการจ่ายผลตอบแทน และภายหลังได้ประกาศปิดระบบ หยุดการจ่ายเงิน ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเชื่อว่าโดนหลอก จึงได้รวมตัวกันแจ้งความ โดยต้องการให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัท และต้องการเงินลงทุนคืน
ด้าน ร.ต.อ.ธรรศ เปิดเผยภายหลังรับหนังสือ ว่า จากการพิจารณาคดีนี้เบื้องต้นพบว่าเข้าข่ายเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ ซึ่งที่ผ่านมาพบมีการหลอกลวงในหลายรูปแบบ โดยปัจจุบันกลุ่มลงทุนแชร์ลูกโซ่ได้มีการพัฒนารูปแบบให้มีลักษณะแตกต่างจากแชร์ลูกโซ่ เพื่อให้ผู้ที่ลงทุนตายใจ และตัดสินใจร่วมลงทุน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ
เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 800 คน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวเปิดทำการเป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปี ก่อนที่เดือนกันยายน-ตุลาคม ที่ผ่านมา จะเริ่มบ่ายเบี่ยง เลื่อนการจ่ายผลตอบแทน และภายหลังได้ประกาศปิดระบบ หยุดการจ่ายเงิน ทำให้กลุ่มผู้เสียหายเชื่อว่าโดนหลอก จึงได้รวมตัวกันแจ้งความ โดยต้องการให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัท และต้องการเงินลงทุนคืน
ด้าน ร.ต.อ.ธรรศ เปิดเผยภายหลังรับหนังสือ ว่า จากการพิจารณาคดีนี้เบื้องต้นพบว่าเข้าข่ายเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ ซึ่งที่ผ่านมาพบมีการหลอกลวงในหลายรูปแบบ โดยปัจจุบันกลุ่มลงทุนแชร์ลูกโซ่ได้มีการพัฒนารูปแบบให้มีลักษณะแตกต่างจากแชร์ลูกโซ่ เพื่อให้ผู้ที่ลงทุนตายใจ และตัดสินใจร่วมลงทุน จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ