นายศักดิ์ดา แสนมี่ เครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการโยกย้ายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ไปประจำสำนักทรัพยากรจังหวัดปัตตานี ว่า คำสั่งโยกย้ายดังกล่าวถือว่าขัดกับข้อเรียกร้องของกลุ่มเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ 6 องค์กร ที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาให้พักราชการนายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน ในระหว่างที่ถูกดำเนินคดี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาใช้อำนาจตามตำแหน่งราชการเข้ามาข่มขู่คุกคามพยาน และแทรกแซงการสืบสวนคดี
ทั้งนี้ เครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ฯ มองว่าคำสั่งย้ายนายชัยวัฒน์ ไปประจำสำนักทรัพยากรจังหวัดปัตตานี เป็นเพียงความพยายามของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะแสดงต่อสังคมว่ากระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการตกเป็นผู้ต้องหาของนายชัยวัฒน์ และได้มีคำสั่งการต่อกรณีดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตำแหน่งใหม่ของนายชัยวัฒน์ ที่สำนักทรัพยากรจังหวัดปัตตานี จะไม่มีอำนาจเข้าไปเกี่ยวข้องจัดการกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุในคดี แต่ยังมีอำนาจในฐานะข้าราชการระดับสูงอยู่ ซึ่งอาจจะใช้อำนาจดังกล่าวในการแทรกแซงการสอบสวนคดี หรือข่มขู่คุกคามพยานในคดีได้ จึงย้ำว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาพักราชการผู้ต้องหาทั้งหมดในคดีจนกว่าการพิจารณาคดีจะสิ้นสุด เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคต่างๆ ต่อการสอบสวนคดี และให้ความคุ้มครองพยานในคดีจากการใช้อำนาจในตำแหน่งราชการโดยมิชอบ
นายศักดิ์ดา กล่าวเพิ่มเติมว่า การพักราชการผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด ยังเป็นผลดีต่อภาครัฐเช่นกัน เพราะการที่นายชัยวัฒน์ และพวก ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี จำเป็นต้องเดินทางไปขึ้นศาลเพื่อต่อสู้คดี จึงไม่สามารถปฏิบัติราชการได้อย่างเต็มที่ จึงควรให้ผู้ต้องหาทั้งหมดออกจากราชการเป็นการชั่วคราวไปก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ซึ่งหากศาลพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด กระทรวงฯ ก็ยังสามารถให้กลับมารับตำแหน่งราชการได้อีกครั้ง