MGR online - ผบก.ป.ยันหลักฐานชัดที่ดินเลือด 3.8 พันไร่ เป็นของมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ด้าน “เขมจิรา” ขอกองปรามคุ้มครองพยานหวั่นไม่ปลอดภัย พร้อมยื่นสอบที่ดินสงขลา 600 ไร่ และชลบุรีอีก 1.3 พันไร่ของมูลนิธิที่ตกไปเป็นของ “บุญช่วย” น้องชายพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
วันนี้ (16 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวถึงคดีข้อพิพาทที่ดินจำนวน 3,800 ไร่ ในจังหวัดจันทบุรีว่า สำหรับคดีดังกล่าว อยากชี้แจงในส่วนนี้ว่าทางกอปราบปรามไม่ได้ทำคดีนี้เพื่อช่วยเหลือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นพิเศษ เพียงแต่ทำตามหน้าที่หลังทางมูลนิธิอธิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยได้เคยมาเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายบุญช่วย เจริญสถาพร น้องชายพระกิตติวุฑโฒ ภิกขุ ในความผิดฐานยักยอกที่ดินของมูลนิธิจำนวน 3,800 ไร่ ไปเป็นของตนเอง จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินผืนดังกล่าวว่าใครคือเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง ซึ่งจากข้อมูลหลักฐานที่ได้รับขณะนี้ค่อนข้างชัดเจนพอสมควรว่ามูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของที่ดินที่แท้จริง แต่ก็ขอใช้เวลาในการตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะแล้ว
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อว่า ภายหลังจาก น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท นำหลักฐานมามอบให้กับทางกองปราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าวเมื่อวานที่ผ่านมานั้น เบื้องต้นจากการสอบถาม น.ส.เขมจิรา ยังได้มีความประสงค์ขอให้ทางกองปราบจัดกำลังคุ้มครองดูแลตนเองกับบุคคลในครอบครัวเนื่องจากเกรงว่าอาจจะผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์โยงการล้างแค้นเกิดขึ้น รวมไปถึงการคุ้มครองพยานบุคคลสำคัญต่างๆ ทั้งพระที่เคยสนิทใกล้ชิดกับพระกิตติวุฑโฒ เพราะเกรงว่าอาจมีส่งคนไปข่มขู่ทำร้ายพยานบุคคลเพื่อไม่ให้ออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริงถึงกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว หรือแม้กระทั่งการส่งคนไปฆ่าตัดตอน จากผู้ที่เสียผลประโยชน์ในคดี ซึ่งในส่วนนี้ทางกองปราบเองขอพิจารณาเป็นกรณีๆไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์และโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้นและความเสี่ยงของแต่ละคน เนื่องจากหากต้องจัดกำลังไปคุ้มครองพยานทั้งหมดคงจะไม่สามารถทำได้
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกเหนือจากเรื่องการที่ น.ส.เขมจิรา ขอให้มีการจัดกำลังคุ้มครองพยานแล้ว ยังได้มีการร้องขอให้ทางตำรวจกองปราบช่วยดำเนินการตรวจสอบที่ดินส่วนอื่นๆ ในพื้นที่ จ.สงขลา อีก 600 ไร่ และ จ.ชลบุรี อีก 1,300 ไร่ ของมูลนิธิฯ ที่ตกไปอยู่ในความครอบครองของนายบุญช่วย ว่ามีที่ไปที่มาอย่างไร ซึ่งในส่วนนี้ทางกองปราบเองก็ได้รับเรื่องไว้พิจารณา