พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านทุ่งสะเดา ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และบาดเจ็บอีก 5 คน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า กลุ่มคนร้ายมีจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน และยังเป็นกลุ่มคนที่เคยก่อเหตุซ้ำซากในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะต้องติดตามไล่ล่าและใช้กฎหมายพิเศษในการจัดการอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้น จะกลับมาก่อเหตุกับเป้าหมายอ่อนแออย่างไม่มีจบสิ้น
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 ลงพื้นที่ติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งสายข่าวแจ้งเบาะแสว่าพบบุคคลต้องสงสัย แต่งกายชุดดำคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารมีอาวุธครบมือเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา จึงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาได้ 1 คน
จากการสอบสวนทราบว่าเป็นคนพื้นที่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จึงนำตัวไปสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อขยายผลและหาความเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานและวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ อาทิ ปลอกกระสุนปืน ซองปืนพกสั้นและหมวกอำพรางใบหน้า ทั้งนี้ กระสุนปืนเอ็ม16 ที่พบในที่เกิดเหตุพบว่าเคยใช้ก่อเหตุปล้นร้านทอง ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ก่อเหตุปล้นตู้เอทีเอ็ม หน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี จ.ปัตตานี และบุกยิงเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ ต.ปะกาฮะรัง จ.ปัตตานี มาแล้ว
ด้าน พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 ลงพื้นที่ติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งสายข่าวแจ้งเบาะแสว่าพบบุคคลต้องสงสัย แต่งกายชุดดำคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารมีอาวุธครบมือเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา จึงควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาได้ 1 คน
จากการสอบสวนทราบว่าเป็นคนพื้นที่ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จึงนำตัวไปสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อขยายผลและหาความเชื่อมโยงกับพยานหลักฐานและวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ อาทิ ปลอกกระสุนปืน ซองปืนพกสั้นและหมวกอำพรางใบหน้า ทั้งนี้ กระสุนปืนเอ็ม16 ที่พบในที่เกิดเหตุพบว่าเคยใช้ก่อเหตุปล้นร้านทอง ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ก่อเหตุปล้นตู้เอทีเอ็ม หน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี จ.ปัตตานี และบุกยิงเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ ต.ปะกาฮะรัง จ.ปัตตานี มาแล้ว