นายโอรส เพชรเจริญ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือ ขยายตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน โดยการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน จากการใช้จ่ายสินค้าคงทนในหมวดยานยนต์ที่ขยายตัวดีในช่วงต้นไตรมาส สำหรับการใช้จ่ายสินค้าในชีวิตประจำวันขยายตัวจากเม็ดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้ามาช่วยพยุงกำลังซื้อ การผลิตภาคอุตสาหกรรมกลับมาขยายตัว จากหมวดเครื่องดื่มที่เร่งผลิตก่อนปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต รวมทั้งการผลิตสินค้าเกษตรแปรรูปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางสินค้าตามความต้องของตลาดต่างประเทศ สำหรับการท่องเที่ยวขยายตัวชะลอลง จากนักท่องเที่ยวชาวไทยหดตัวจากไตรมาสก่อน ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้ประชาชนบางส่วนระมัดระวังการใช้จ่าย ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศขยายตัวดี ทางด้านผลผลิตสินค้าเกษตรและการลงทุนภาคเอกชนหดตัวน้อยลง ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐยังหดตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจภาคเหนือ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ลดลงจากไตรมาสก่อนตามราคาน้ำมันขายปลีก ขณะที่ราคาอาหารสดปรับสูงขึ้นจากราคาข้าว เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ ทางด้านอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.9 ทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยการจ้างงานภาคเกษตรเพิ่มขึ้นส่วนนอกภาคเกษตรลดลง ภาคการเงิน สิ้นเดือนสิงหาคม 2562 ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจมียอดสินเชื่อรวม 1.33 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน จากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ส่วนสินเชื่อธุรกิจหดตัวต่อเนื่อง ด้านเงินฝากมีจำนวน 1.21 ล้านล้านบาท ขยายตัวในหมวดเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ตามการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษเพื่อชดเชยส่วนที่ครบกำหนด