นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฎิบัติงานกระทรวงการคลัง) กล่าวว่า มีร้านค้าและผู้ประกอบเข้าร่วมโครงการ "ชิมช้อปใช้" ประมาณ 180,000 ร้านค้า กระจายอยู่ 77 จังหวัดทั่วทั้งประเทศ โดยในช่วงวันหยุดยาววันที่ 2-5 พฤศจิกายนนี้ ประชาชนให้การตอบรับการท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นอย่างดี อีกทั้งยอดการจับจ่ายใช้สอยผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ทั้งกระเป๋า 1 และกระเป๋า 2 ดีเกินคาด เม็ดเงินทยอยไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากทะลุหมื่นล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ย้ำว่าวัตถุประสงค์หลักของโครงการชิมช้อปใช้ คือส่งเสริมให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจคำว่า สังคมไร้เงินสด ในทางปฏิบัติ ส่งเสริมสถาบันครอบครัวด้วยการทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้นผ่านการท่องเที่ยว และกระจายเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศผ่านร้านค้ารายย่อยและวิสาหกิจชุมชนอย่างแท้จริง
ขณะที่นางวิราวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ยอดผู้ลงทะเบียนโครงการชิมช้อปใช้ ทั้งเฟส 1 และ 2 มีประชาชนร่วมลงทะเบียน 13 ล้านคน นับว่าเป็นกลุ่มที่มีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ช่วงประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน แม้ประชาชนยังเน้นใช้เงินผ่านกระเป๋า 1 เมื่อใช้เงินเพียงบางส่วนในกระเป๋า 1 แล้ว วงเงินที่เหลือยังทยอยใช้ได้จนถึงเดือนธันวาคมนี้