วันนี้ (18 ส.ค.) บรรยากาศการไว้อาลัย และกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 289 ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
นางวันสัญญา กาญจนเตมีย์ อายุ 40 ปี ซึ่งเดินทางมาจากย่านสำโรง จ.สมุทรปราการ แม้ว่าเพิ่งจะประสบอุบัติเหตุขาหัก ต้องผ่าตัดใส่น็อตที่ขา แต่ด้วยต้องการพาลูกสาวมากราบพระบรมศพเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศเยอรมัน จึงฝึกเดินจนคล่องขึ้น และมากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 3 เผยว่า มาเข้าคิวสักการะตั้งแต่ 09.30 น. เพื่ออยากให้ลูกสาวได้มากราบลาในหลวง ร.9 ให้เป็นสิริมงคล ที่ผ่านมาประทับใจพระราชกรณียกิจของพระองค์ในทุกด้าน ไม่ว่าน้ำท่วม เศรษฐกิจพอเพียง ที่จะสอนลูกไว้เสมอ วัยรุ่นอาจจะใช้เงินฟุ้งเฟ้อตามข่วงอายุ แต่ก็สอนให้ลูกรู้จักพอเพียง และใช้เงิน โดยมีพระองค์เป็นแบบอย่างของความประหยัด รวมถึงการทำตนให้เป็นคนดี ไม่ให้ใครว่าเราได้ ลูกสาวจึงเห็นแบบอย่างนี้และตั้งใจอยากจะเรียนหมอไปเป็นหมออาสา ทำความดีตามรอยพระองค์ อย่างตนเป็นพนักงานธนาคาร ก็ได้เก็บธนบัตรและเหรียญต่างๆ เป็นที่ระลึกใส่สมุดต่างๆ ไว้ด้วย
ด้าน น.ส.กชพรรณ ปุญญปรมัตถ์ ชาวบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า นัดกับญาติพี่น้องจำนวน 8 คน ซึ่งต่างคนต่างกระจายไปทำงานตามจังหวัดต่างๆ มาเจอกันที่บ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วเดินทางมารอเข้าแถวสักการะพระบรมศพตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวานนี้ ก่อนได้เข้ากราบพระบรมศพในเวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งเป็นการมากราบพระบรมศพในหลวงเป็นครั้งแรกของตัวเองและลูกสาว รู้สึกดีใจและตื้นตันมาก ส่วนตัวประทับใจในพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงปฏิบัติเพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอด ระหว่างเข้าแถวรอสักการะพระบรมศพได้ฟังคำสอนหนึ่งของพระองค์ที่ว่า "ถ้าเรานำสัจธรรมมาปฏิบัติก็จะเกิดเป็นรูปธรรม" สะท้อนว่าสิ่งที่พระองค์สอนมาตลอดเป็นสัจธรรม มีความพอเพียง ถ้าเรามีเหตุผลในการใช้ชีวิตเราก็จะมีความสุขไม่เดือดร้อน แสดงให้เห็นว่าทรงเป็นทั้งพระราชาและนักปราชญ์
ด้าน ด.ญ.ปุณณภา ปุญญปรมัตถ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ตัวเองเป็นเด็กรุ่นใหม่แต่มีโอกาสศึกษาเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากโรงเรียนตลอดไม่ว่าจะเป็นพระราชกรณียกิจ หรือพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ เช่น ด้านดนตรีและศิลปะ แต่ส่วนที่ประทับใจที่สุดคือ พระองค์ทรงมีความเสียสละในการพัฒนาประเทศ โดยไม่สนพระทัยว่าพระองค์จะทรงเหน็ดเหนื่อยเพียงไหน ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจึงพยายามน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ อย่างที่โรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือนก็จะพยายามน้ำงินมาใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
นางวันสัญญา กาญจนเตมีย์ อายุ 40 ปี ซึ่งเดินทางมาจากย่านสำโรง จ.สมุทรปราการ แม้ว่าเพิ่งจะประสบอุบัติเหตุขาหัก ต้องผ่าตัดใส่น็อตที่ขา แต่ด้วยต้องการพาลูกสาวมากราบพระบรมศพเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศเยอรมัน จึงฝึกเดินจนคล่องขึ้น และมากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 3 เผยว่า มาเข้าคิวสักการะตั้งแต่ 09.30 น. เพื่ออยากให้ลูกสาวได้มากราบลาในหลวง ร.9 ให้เป็นสิริมงคล ที่ผ่านมาประทับใจพระราชกรณียกิจของพระองค์ในทุกด้าน ไม่ว่าน้ำท่วม เศรษฐกิจพอเพียง ที่จะสอนลูกไว้เสมอ วัยรุ่นอาจจะใช้เงินฟุ้งเฟ้อตามข่วงอายุ แต่ก็สอนให้ลูกรู้จักพอเพียง และใช้เงิน โดยมีพระองค์เป็นแบบอย่างของความประหยัด รวมถึงการทำตนให้เป็นคนดี ไม่ให้ใครว่าเราได้ ลูกสาวจึงเห็นแบบอย่างนี้และตั้งใจอยากจะเรียนหมอไปเป็นหมออาสา ทำความดีตามรอยพระองค์ อย่างตนเป็นพนักงานธนาคาร ก็ได้เก็บธนบัตรและเหรียญต่างๆ เป็นที่ระลึกใส่สมุดต่างๆ ไว้ด้วย
ด้าน น.ส.กชพรรณ ปุญญปรมัตถ์ ชาวบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า นัดกับญาติพี่น้องจำนวน 8 คน ซึ่งต่างคนต่างกระจายไปทำงานตามจังหวัดต่างๆ มาเจอกันที่บ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ แล้วเดินทางมารอเข้าแถวสักการะพระบรมศพตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวานนี้ ก่อนได้เข้ากราบพระบรมศพในเวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งเป็นการมากราบพระบรมศพในหลวงเป็นครั้งแรกของตัวเองและลูกสาว รู้สึกดีใจและตื้นตันมาก ส่วนตัวประทับใจในพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงปฏิบัติเพื่อประชาชนชาวไทยมาตลอด ระหว่างเข้าแถวรอสักการะพระบรมศพได้ฟังคำสอนหนึ่งของพระองค์ที่ว่า "ถ้าเรานำสัจธรรมมาปฏิบัติก็จะเกิดเป็นรูปธรรม" สะท้อนว่าสิ่งที่พระองค์สอนมาตลอดเป็นสัจธรรม มีความพอเพียง ถ้าเรามีเหตุผลในการใช้ชีวิตเราก็จะมีความสุขไม่เดือดร้อน แสดงให้เห็นว่าทรงเป็นทั้งพระราชาและนักปราชญ์
ด้าน ด.ญ.ปุณณภา ปุญญปรมัตถ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ตัวเองเป็นเด็กรุ่นใหม่แต่มีโอกาสศึกษาเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากโรงเรียนตลอดไม่ว่าจะเป็นพระราชกรณียกิจ หรือพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ เช่น ด้านดนตรีและศิลปะ แต่ส่วนที่ประทับใจที่สุดคือ พระองค์ทรงมีความเสียสละในการพัฒนาประเทศ โดยไม่สนพระทัยว่าพระองค์จะทรงเหน็ดเหนื่อยเพียงไหน ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจึงพยายามน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ อย่างที่โรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีทุกเดือนก็จะพยายามน้ำงินมาใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น