นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุม ว่า ก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายว่า การดำเนินคดีกับทุกกลุ่มต้องให้ความเท่าเทียม และแก้ปัญหายึดหลักความรอบคอบ ไม่แก้ปัญหาเก่า แล้วสร้างปัญหาใหม่
ขณะที่คณะอนุกรรมการด้านการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ ได้รายงานความคืบหน้ากิจกรรมที่ดำเนินงานมาตลอด 3 ปี เช่น หลักสูตรโตไปไม่โกง จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาให้ครอบคลุม ขยายโรงเรียนเป้าหมาย ปรับเนื้อหาเน้นการวิเคราะห์ ขณะเดียวกัน การเผยแพร่จะเน้นการใช้สื่อเทคโนโลยีมากขึ้น และขยายจากโรงเรียนไปยังครอบครัว เพื่อปลูกจิตสำนึกให้กับเด็กก่อนวัยเรียนมีภูมิคุ้มกันโตไปไม่โกง
ส่วนสื่อรณรงค์ประเทศไทยไม่โกง จะเพิ่มตอนการเสนอ อีก 20 ตอน พร้อมวางแผนการเผยแพร่สื่อรณรงค์ให้ไปในสื่อออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคน แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินจัดเก็บไว้ที่ต้นสังกัด โดยใช้ระบบดิจิตอล ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ไปศึกษาผลกระทบ กำหนดกรอบให้รัดกุม และดูว่ามีประเทศใดทำบ้าง
ขณะที่คณะอนุกรรมการด้านการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ ได้รายงานความคืบหน้ากิจกรรมที่ดำเนินงานมาตลอด 3 ปี เช่น หลักสูตรโตไปไม่โกง จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาให้ครอบคลุม ขยายโรงเรียนเป้าหมาย ปรับเนื้อหาเน้นการวิเคราะห์ ขณะเดียวกัน การเผยแพร่จะเน้นการใช้สื่อเทคโนโลยีมากขึ้น และขยายจากโรงเรียนไปยังครอบครัว เพื่อปลูกจิตสำนึกให้กับเด็กก่อนวัยเรียนมีภูมิคุ้มกันโตไปไม่โกง
ส่วนสื่อรณรงค์ประเทศไทยไม่โกง จะเพิ่มตอนการเสนอ อีก 20 ตอน พร้อมวางแผนการเผยแพร่สื่อรณรงค์ให้ไปในสื่อออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคน แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินจัดเก็บไว้ที่ต้นสังกัด โดยใช้ระบบดิจิตอล ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ไปศึกษาผลกระทบ กำหนดกรอบให้รัดกุม และดูว่ามีประเทศใดทำบ้าง