อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เผยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเด็กชนบทส่วนกลาง ไฟเขียวงบ 3 ล้าน ทำกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพฯ ช่วยเด็กประสบภัยน้ำท่วม พร้อมอนุมัติกองทุนพัฒนาสตรีฯ ยืดหนี้ 1 ปี ปล่อยกู้ดอก 3% ให้ผู้ประสบภัยนำไปประกอบอาชีพ
วันนี้ (3 ก.พ.) นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดในพื้นที่ภาคใต้ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมาเป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ส่งผลกระทบให้พื้นที่ใน 12 จังหวัด 124 อำเภอ 755 ตำบล 5,814 หมู่บ้าน 563,616 ครัวเรือน ประชาชนกว่า 1.7 ล้านคน (1,725,714 คน) และพื้นที่ทางการเกษตรถึง 938,473 ไร่ ได้รับความเสียหายอย่างหนักนั้น นอกจากความเดือดร้อนของประชาชนทั่วไปแล้ว เด็กยังเป็นอีกกลุ่มบุคคลที่ประสบภัยอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กก่อนวัยเรียน คือ เด็กแรกเกิดถึง 6 ขวบ เป็นกลุ่มที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงเป็นภาระหนักของพ่อแม่ผู้ปกครองในครัวเรือนที่ผู้ประสบภัย
“กรมการพัฒนาชุมชน หน่วยงานที่รับผิดชอบบริหารจัดการ “กองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ได้เข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในทุกภาคส่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ตั้งแต่แรกเริ่ม ในส่วนของสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือประชาชนในการเก็บข้าวของอพยพหนีน้ำ ขณะที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดได้ประสานงานร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดตั้งโรงครัวประทานเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ประกอบอาหารเพื่อแจกจ่ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง และพัทลุง รวม 26 จุด มีผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือแล้วประมาณ 180,000 คน"อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าว
ส่วนเด็กก่อนวัยเรียนที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นั้น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเด็กชนบทส่วนกลางได้อนุมัติเงินกองทุน จำนวน 3 ล้านบาท จัดทำ “โครงการกองทุนพัฒนาเด็กชนบท ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ช่วยเหลือเด็กที่ประสบภัยน้ำท่วม” เป็นทุนตั้งต้นในการช่วยเหลือเด็กที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 12 จังหวัด รวม 124 อำเภอ ผ่านกิจกรรม 3 กิจกรรมหลัก คือ มอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย,จัดถุงยังชีพสำหรับเด็กและเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กในพื้นที่ประสบภัย และให้แต่ละจังหวัดซึ่งมีกองทุนพัฒนาเด็กชนบทจังหวัดอยู่ก็สามารถที่จะพิจารณาใช้เงินกองทุนฯ มาให้ความช่วยเหลือเด็กให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้นได้ด้วย
นายอภิชาติกล่าวด้วยว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ที่ประชุมฯ ได้มีมติยืดหนี้ให้ผู้ประสบอุทกภัยไปอีก 1 ปี และเปิดโอกาสให้สมาชิกกู้เงินได้โครงการละไม่เกิน 2 แสนบาท อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถนำเงินไปประกอบอาชีพ สร้างงานสร้างรายได้ในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนช่วงประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีงบประมาณกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีฯ จังหวัดละ 40-60 ล้านบาทเพื่อใช้ในการหมุนเวียน
นายอภิชาติกล่าวว่า ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนหน่วยงาน และองค์กรต่างๆ ตลอดจนพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมบริจาคเงินสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทฯ เพื่อนำมาใช้ในโครงการนี้ได้ เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือเด็กทำได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยท่านที่สนใจสามารถติดต่อร่วมบริจาคได้ที่สำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน โทรศัพท์ 0-2141-6128 และสำหรับท่านที่อยู่ต่างจังหวัดสามารถสอบถามข้อมูลและร่วมบริจาคได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.cdf.cdd.go.th (ใบเสร็จรับเงินสามารถลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย)