สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,293 คน เรื่อง สถานการณ์น้ำท่วมในสายตาประชาชน สรุปได้ตามลำดับดังนี้
1 สาเหตุของปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในประเทศไทย คือ
อันดับ 1 ภัยธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม การตัดไม้ทำลายป่า 78.50%
อันดับ 2 การบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพ 73.16%
อันดับ 3 ขยะอุดตัน ไม่ขุดลอกคูคลอง สิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ 66.13%
อันดับ 4 เขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ ชำรุด 61.79%
อันดับ 5 ระบบแจ้งเตือน ระบบเตือนภัยไม่มีประสิทธิภาพ 54.76%
2 มาตรการป้องกันน้ำท่วมที่ควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ
อันดับ 1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนรับมือ มีมาตรการฉุกเฉิน เตือนภัย 80.28%
อันดับ 2 ลอกท่อ ขุดลอกคูคลอง เก็บขยะให้พ้นทางน้ำ 79.81%
อันดับ 3 ตรวจสอบเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ประตูระบายน้ำ ซ่อมแซมจุดที่ชำรุด 70.77%
อันดับ 4 ในพื้นที่เสี่ยงควรเตรียมเรือ เครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย 60.40%
อันดับ 5 ชี้แจงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบ เตรียมพร้อมป้องกัน 56.69%
3 ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ได้หรือไม่
อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 38.99% เพราะดูจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ มีน้ำท่วมไปแล้วในหลายพื้นที่ ระบบบริหารจัดการน้ำ ไม่มีความชัดเจน น้ำท่วมเป็นปัญหาใหญ่ ทุกรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้
อันดับ 2 ค่อนข้างเชื่อมั่น 27.36% เพราะนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ใกล้ชิด ทำงานอย่างจริงจัง มีหน่วยงานหลายฝ่ายให้ความร่วมมือ
คิดว่าปริมาณน้ำไม่มากเท่าปี 2554
อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่น 18.22% เพราะไม่มีการเตรียมพร้อม ไม่มีการรับมือ ภัยธรรมชาติไม่สามารถควบคุมได้ เป็นปัญหาซ้ำซาก น้ำท่วมทุกปี
อันดับ 4 เชื่อมั่นว่าจะรับมือได้ 15.43% เพราะมีอำนาจสั่งการ มีกองกำลังทหารในทุกพื้นที่ รัฐบาลเร่งดำเนินการช่วยเหลือ นำเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาเป็นแนวทางในการแก้ไขได้
4 บทเรียนที่ได้จากการประสบปัญหาน้ำท่วมในปีที่ผ่าน ๆ มา สามารถนำมาปรับใช้ในปีนี้ คือ
อันดับ 1 ภาครัฐควรวางแผนบริหารจัดการน้ำ ระบายน้ำอย่างรวดเร็ว 79.66%
1 สาเหตุของปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในประเทศไทย คือ
อันดับ 1 ภัยธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม การตัดไม้ทำลายป่า 78.50%
อันดับ 2 การบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพ 73.16%
อันดับ 3 ขยะอุดตัน ไม่ขุดลอกคูคลอง สิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ 66.13%
อันดับ 4 เขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ ชำรุด 61.79%
อันดับ 5 ระบบแจ้งเตือน ระบบเตือนภัยไม่มีประสิทธิภาพ 54.76%
2 มาตรการป้องกันน้ำท่วมที่ควรดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ
อันดับ 1 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนรับมือ มีมาตรการฉุกเฉิน เตือนภัย 80.28%
อันดับ 2 ลอกท่อ ขุดลอกคูคลอง เก็บขยะให้พ้นทางน้ำ 79.81%
อันดับ 3 ตรวจสอบเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ประตูระบายน้ำ ซ่อมแซมจุดที่ชำรุด 70.77%
อันดับ 4 ในพื้นที่เสี่ยงควรเตรียมเรือ เครื่องสูบน้ำ กระสอบทราย 60.40%
อันดับ 5 ชี้แจงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนได้รับทราบ เตรียมพร้อมป้องกัน 56.69%
3 ประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะรับมือสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ได้หรือไม่
อันดับ 1 ไม่ค่อยเชื่อมั่น 38.99% เพราะดูจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ มีน้ำท่วมไปแล้วในหลายพื้นที่ ระบบบริหารจัดการน้ำ ไม่มีความชัดเจน น้ำท่วมเป็นปัญหาใหญ่ ทุกรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้
อันดับ 2 ค่อนข้างเชื่อมั่น 27.36% เพราะนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ใกล้ชิด ทำงานอย่างจริงจัง มีหน่วยงานหลายฝ่ายให้ความร่วมมือ
คิดว่าปริมาณน้ำไม่มากเท่าปี 2554
อันดับ 3 ไม่เชื่อมั่น 18.22% เพราะไม่มีการเตรียมพร้อม ไม่มีการรับมือ ภัยธรรมชาติไม่สามารถควบคุมได้ เป็นปัญหาซ้ำซาก น้ำท่วมทุกปี
อันดับ 4 เชื่อมั่นว่าจะรับมือได้ 15.43% เพราะมีอำนาจสั่งการ มีกองกำลังทหารในทุกพื้นที่ รัฐบาลเร่งดำเนินการช่วยเหลือ นำเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาเป็นแนวทางในการแก้ไขได้
4 บทเรียนที่ได้จากการประสบปัญหาน้ำท่วมในปีที่ผ่าน ๆ มา สามารถนำมาปรับใช้ในปีนี้ คือ
อันดับ 1 ภาครัฐควรวางแผนบริหารจัดการน้ำ ระบายน้ำอย่างรวดเร็ว 79.66%
