ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่จับมือ 3 ฝ่ายแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตเมือง เชื่อสามารถรับมือได้ดีขึ้น เตรียมทดสอบรับมืออีกครั้งวันที่ 24-28 พ.ค.ที่คาดมีฝนตกหนัก ชี้น้ำท่วมที่ผ่านมาพบศักยภาพของคลองแม่ข่ามีจำกัดทำให้ระบายน้ำออกไปได้ช้า
วันนี้ (23 พ.ค. 60) นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล นายช่างประทานอาวุโส โครงการชลประทานเชียงใหม่ เปิดเผยเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมขังอย่างหนักทั่วตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 60 ที่ผ่านมาว่า เกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึง 130 มิลลิเมตรภายในเวลา 3 ชั่วโมง ส่งผลให้พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากทั้งย่านหายยา, ศรีปิงเมือง และช้างคลาน เกิดน้ำท่วมขังสูง
ซึ่งการแก้ไขสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวต้องระบายน้ำลงสู่คลองแม่ข่าและลงสู่แม่น้ำปิงต่อไป แต่เนื่องจากศักยภาพในการระบายของคลองแม่ข่ามีจำกัด เพราะพบว่าที่ประตูน้ำคลองแม่ข่าบริเวณถนนมหิดลมีความกว้างเหลือเพียง 5 เมตรเท่านั้นจากปกติ 10 เมตร ทำให้การระบายน้ำออกจากตัวเมืองได้ช้า และต้องมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเพื่อคลี่คลายสถานการณ์
ทั้งนี้ เหตุการณ์น้ำท่วมดังกล่าวที่เกิดขึ้น ล่าสุดวานนี้ (22 พ.ค. 60) ได้มีการจัดประชุมร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เทศบาลนครเชียงใหม่, สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และโครงการชลประทานเชียงใหม่ เพื่อหารือแนวทางในการทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งเบื้องต้นได้กำหนดเป้าหมายในการบริหารจัดการภาวะวิกฤตว่าในกรณีที่เกิดน้ำท่วมในเขตตัวเมืองจะต้องระบายน้ำออกไปให้หมดภายใน 72 ชั่วโมง
รวมทั้งให้เกิดผลกระทบและความเสียหายน้อยที่สุด โดยแนวทางการปฏิบัติจะมีการแบ่งพื้นที่ และหน้าที่รับผิดชอบกันอย่างชัดเจนในการประสานการทำงานร่วมกัน ทั้งการเฝ้าระวัง เตือนภัย การเปิดปิดประตูน้ำให้สัมพันธ์กัน และการเร่งสูบน้ำออกในกรณีที่เกิดเหตุ
สำหรับในช่วงวันที่ 24-28 พ.ค. 60 ที่ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือมีการแจ้งเตือนว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น นายช่างประทานอาวุโส โครงการชลประทานเชียงใหม่บอกว่า จากแผนการปฏิบัติงานที่เป็นข้อสรุปจากการประชุม 3 ฝ่าย รวมทั้งการใช้แผนการปฏิบัติงานที่เรียกว่า One Map และจากการที่แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำประจำจุดเสี่ยงต่างๆ แล้ว
เชื่อว่าจะสามารถรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักและแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าเดิมแน่นอน ขณะเดียวกัน ทางชลประทานเตรียมจะนำเครื่องผลักดันน้ำมาติดตั้งเพิ่มที่ประตูน้ำคลองแม่ข่าบริเวณถนนมหิดลด้วย เพื่อเตรียมพร้อมช่วยให้การระบายน้ำทำได้ดียิ่งขึ้นในกรณีเกิดสถานการณ์
ขณะที่นายธนา นวลปลอด หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และการจัดการ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ดินโคลนถล่มของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในพื้นที่ 25 อำเภอมีพื้นที่เสี่ยง 178 ตำบล 919 หมู่บ้าน โดยราบลุ่ม เช่น อำเภอสันป่าตอง อำเภอสันทราย อำเภอสารภี จะเป็นพื้นที่เกิดน้ำท่วมขัง ขณะที่พื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม เช่น อำเภอฝาง อำเภอแม่แตง อำเภอแม่แจ่ม เป็นต้น
ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการตั้งกองอำนวยการป้องกันแก้ไขปัญหานี้แล้ว เบื้องต้นทางกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้เตรียมความพร้อมในการป้องกันปัญหาด้วยการเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำต่างๆ และขุดลอกคูคลองให้สามารถระบายน้ำได้ดี ตลอดจนเตรียมพร้อมระบบการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยด้วย