นายมงคลกิจ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของชาติ (ภตช.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณในโครงการพัฒนาครูแนวใหม่ ที่มีมากกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งที่ปกติใช้เพียงปีละ 700 กว่าล้านบาท
นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้รับข้อร้องเรียนจากครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายราย ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับโครงการอบรมดังกล่าว ซึ่งมองว่าเป็นการบีบบังคับให้ครูที่ต้องการเลื่อนวิทยฐานะ ต้องอบรมในหลักสูตรที่ไม่สอดคล้องกับพื้นที่ที่จัดการเรียนการสอน ส่งผลให้เป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ครูที่ต้องเข้ารับการอบรม
พร้อมกันนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการตัดงบประมาณในส่วนที่จะต้องนำไปบำรุงโรงเรียน เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการพัฒนาครูแนวใหม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการขโมยเงินนักเรียนเพื่อนำมาใช้ในการอบรมดงกล่าวด้วย
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการอบรมดังกล่าว รวมถึงให้มีการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ควรจะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับงานในกระทรวง ตลอดจนไม่ใช้กระทรวงเป็นตัวทดลองนโยบาย หรือโครงการต่างๆ ที่ไม่มีการพิสูจน์ว่าเกิดประโยชน์ต่อครูและผู้เรียนได้จริงหรือไม่
นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้รับข้อร้องเรียนจากครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายราย ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับโครงการอบรมดังกล่าว ซึ่งมองว่าเป็นการบีบบังคับให้ครูที่ต้องการเลื่อนวิทยฐานะ ต้องอบรมในหลักสูตรที่ไม่สอดคล้องกับพื้นที่ที่จัดการเรียนการสอน ส่งผลให้เป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ครูที่ต้องเข้ารับการอบรม
พร้อมกันนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการตัดงบประมาณในส่วนที่จะต้องนำไปบำรุงโรงเรียน เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในโครงการพัฒนาครูแนวใหม่ ซึ่งเท่ากับเป็นการขโมยเงินนักเรียนเพื่อนำมาใช้ในการอบรมดงกล่าวด้วย
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการอบรมดังกล่าว รวมถึงให้มีการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ควรจะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับงานในกระทรวง ตลอดจนไม่ใช้กระทรวงเป็นตัวทดลองนโยบาย หรือโครงการต่างๆ ที่ไม่มีการพิสูจน์ว่าเกิดประโยชน์ต่อครูและผู้เรียนได้จริงหรือไม่
