เลขาฯ ภตช.ยื่นหนังสือ “ประยุทธ์” สอบเชิงนโยบาย ศธ. ส่อเอื้อเอกชน เหตุปรับหลักสูตรอบรมการเลื่อนวิทยฐานะครู โดยการเข้าอบรม ชี้เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายครู กระทบงบฯ นักเรียน ไล่ รมว.ศธ.หาคนเหมาะสมทำหน้าที่แทน
วันนี้ (24 ก.ค.) เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่ง ก.พ.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเชิงนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่อาจจะเอื้อต่อเอกชน และขอให้ยกเลิกโครงการพัฒนาครูแนวใหม่
โดยนายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ภตช.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากบุคลากรทางการศึกษาจำนวนมากว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศการใช้หลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ และการพัฒนาข้าราชการครูแนวใหม่ โดยจัดหลักสูตรอบรมการเลื่อนวิทยฐานะ 50 ชั่วโมงต่อปี, 250 ชั่วโมงต่อ 5 ปี ในการเลื่อนวิทยฐานะ 1 ระดับ โดยครูจะได้รับงบประมาณอบรมคนละ 10,000 บาทต่อปี ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณทั้งหมดกว่าปีละ 4,000 ล้านบาท ทั้งยังทำให้เกิดปัญหาเพิ่มภาระรายจ่ายค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่ากินอยู่ให้แก่ครู กรณีนี้อาจจะนำไปสู่การเปิดช่องทางในการทุจริตของโรงเรียนที่จะเรียกรับเงินแปะเจี๊ยะจากผู้ปกครอง เพราะโรงเรียนไม่มีงบประมาณเพียงพอ ขณะเดียวกัน ค่าอบรมดังกล่าวเดิมเป็นเงินงบประมาณที่ใช้กับนักเรียนและสถานศึกษา จึงเหมือนเป็นการขโมยเงินนักเรียนไปเป็นรายได้ให้เอกชน
ดังนั้น ขอให้นายกรัฐมนตรีตรวจโครงการดังกล่าวเพื่อไม่ให้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจเอกชนด้านการจัดการอบรม ไม่เป็นภาระรายจ่ายแก่ครู อีกทั้งต้องไม่กระทบต่องบประมาณปกติของนักเรียนในการพัฒนาการศึกษา และขอให้ยกเลิกหลักเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะแต่ละระดับ โดยการบังคับให้อบรม หรือ ถ้าต้องการจะทำต่อไปก็ควรให้ รมว.ศึกษาธิการอบรมนำร่อง 1,400 หลักสูตรก่อน เพราะ รมว.ศึกษาธิการจำเป็นต้องรู้มากกว่าครู รู้มากกว่าผู้บริหารสถานศึกษาถึงจะออกนโยบายมาบังคับกับทุกคนได้โดยไม่ผิดพลาดเหมือนอดีตที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเสนอว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งต่อไป ให้ปรับ รมว.ศึกษาธิการออกจากตำแหน่ง เพื่อหาบุคคลที่เหมาะสมและมีความสามารถมาทดแทน