นายสุรศักดิ์ สุพรรณพงศ์ ผู้ชำนาญการด้านกำกับธุรกิจ Non-bank และรับเรื่องร้องเรียน ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ กล่าวว่า ในช่วงนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเกี่ยวกับการถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์วันละไม่ต่ำกว่า 10 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการโทรศัพท์มาขอตรวจสอบบัญชีธนาคาร เป็นหนี้บัตรเครดิต พัวพันกับยาเสพติด หรือฟอกเงิน เงินคืนภาษี หมายศาลส่งไปไม่ถึง ข้อมูลหาย โชคดีรับรางวัลใหญ่ และอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางเงินกับสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยแอบอ้างว่าโทรศัพท์มาจากธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินต่าง ๆ รวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อผู้ตกเป็นเหยื่อตกใจกลัว และขาดความรอบคอบในการพิจารณาข้อเท็จจริงก็จะทำการแจ้งข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ-สกุล เลขบัญชีธนาคาร จำนวนเงินในบัญชี หรือไปทำการโอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ขอชี้แจงว่า กรณีการขอตรวจสอบบัญชีธนาคาร หรือทวงหนี้บัตรเครดิต หรือกรณีใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน เจ้าหน้าที่ธนาคารจะจัดส่งเอกสารให้กับบุคคลเจ้าของบัญชี และให้ประสานกับทางธนาคารโดยตรง จะไม่มีการแจ้งให้ดำเนินการใด ๆ ผ่านทางโทรศัพท์ในทุกกรณี ดังนั้น หากมีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้ามาโดยแอบอ้างเรื่องดังกล่าว ห้ามบอกข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมระบุว่าจะเข้าไปติดต่อกับทางธนาคารด้วยตนเอง และให้รีบวางสายทันที เพราะไม่เช่นนั้นอาจถูกโน้มน้าวใจให้หลงเชื่อได้
ส่วนที่มีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ขอยืนยันว่า ภารกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย คือบริหารจัดการให้ระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ส่งเสริมความรู้ ดูแลเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบด้านธุรกรรมทางการเงินเพื่อให้รู้เท่าทันกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตของประชาชนและนิติบุคคลแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ขอชี้แจงว่า กรณีการขอตรวจสอบบัญชีธนาคาร หรือทวงหนี้บัตรเครดิต หรือกรณีใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงิน เจ้าหน้าที่ธนาคารจะจัดส่งเอกสารให้กับบุคคลเจ้าของบัญชี และให้ประสานกับทางธนาคารโดยตรง จะไม่มีการแจ้งให้ดำเนินการใด ๆ ผ่านทางโทรศัพท์ในทุกกรณี ดังนั้น หากมีกลุ่มมิจฉาชีพโทรศัพท์เข้ามาโดยแอบอ้างเรื่องดังกล่าว ห้ามบอกข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมระบุว่าจะเข้าไปติดต่อกับทางธนาคารด้วยตนเอง และให้รีบวางสายทันที เพราะไม่เช่นนั้นอาจถูกโน้มน้าวใจให้หลงเชื่อได้
ส่วนที่มีการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น ขอยืนยันว่า ภารกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย คือบริหารจัดการให้ระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ส่งเสริมความรู้ ดูแลเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการประพฤติมิชอบด้านธุรกรรมทางการเงินเพื่อให้รู้เท่าทันกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตของประชาชนและนิติบุคคลแต่อย่างใด