ตำรวจไต้หวันประสานกองปราบ - ปอท. บุกบ้านพักย่านสุขุมวิท ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากชาติตัวเอง ลักลอบใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการหลอกเหยื่อในจีน -
ไต้หวัน โอนเงิน รวบคนร้ายได้ 20 ราย เบื้องต้นแจ้งข้อหาต่างด้าวลักลอบทำงาน ก่อนผลักดันกลับประเทศ - ดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท. สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. ว่าที่ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. ว่าที่ พ.ต.อ.ศราวุธ บวรกิจประเสริฐ ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ท. ภาณุมาศ แสงส่ง สว.กก.1 บก.ป. พ.ต.ต.เจตนิพัทธ์ ศิริวัฒน์ สว.กก.1 บก.ป. สนธิกำลังตำรวจ บก.ป.บก.ปอท. และตำรวจ บช. สืบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน และ สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่ง ในซอยปรีดีพนมยงค์ 25 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา หลังสืบทราบว่าบ้านดังกล่าวถูกใช้เป็นที่พักของขบวนการคอลเซ็นเตอร์สัญชาติไต้หวัน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด พื้นที่ประมาณ 100 ตารางวา เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไป พบบริเวณชั้นล่างมีลักษณะเป็นสำนักงาน ตามกำแพงถูกบุด้วยแผ่นซับเสียง บริเวณชั้นบนมีด้วยกัน 4 ห้อง แต่ละห้องตามกำแพงมีการถูกบุด้วยแผ่นซับเสียง และมีโต๊ะเก้าอี้พร้อมโพยบทสนทนา ก่อนคุมตัวกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ได้ 20 ราย เป็นชาวไต้หวัน 18 ราย ชาวจีน 2 ราย (ชาย 14 ราย หญิง 6 ราย) ขณะกำลังโทรศัพท์หลอกหลวงเหยื่อ จึงได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์ ไมโครโฟนพร้อมหูฟัง โมเดมเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจำนวนหนึ่ง โพยบทสนทนา และรายชื่อผู้เสียหายจำนวนมาก
ว่าที่ พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจสืบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวัน และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ประสานมาทางกองปราบปรามและ บก.ปอท. ว่า มีขบวนการคอลเซ็นเตอร์ชาวไต้หวันและจีนได้ลักลอบใช้บ้านเช่าดังกล่าวเป็นแหล่งที่พักหลอกลวงเหยื่อในประเทศไต้หวัน และประเทศจีน สร้างความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท จึงได้นำกำลังเข้าตรวจค้น โดยขบวนการดังกล่าว จะใช้โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ตหลอกผู้เสียหาย ว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วอ้างว่าบัญชีของเหยื่อมีความเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด หรือบัญชีมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ อาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จำเป็นต้องมีการตรวจสอบบัญชีของเหยื่อ โดยหลอกให้เหยื่อไปดำเนินการทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็ม เพื่อโอนเงินมายังบัญชีของคนร้าย
ว่าที่ พ.ต.อ.ธงชัย กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบ พบกลุ่มผู้ต้องหาเดินทางเข้ามายังประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเพื่อตั้งเป็นฐานบัญชาการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม ฝากประชาสัมพันธ์เตือนภัยว่า หากมีการโทรศัพท์มาหาท่านแล้วอ้างว่าเป็นการโทร.มาจากหน่วยงานของรัฐ หรือ เจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วแจ้งว่าบัญชีของท่านมีความเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย การค้ายาเสพติด หรือบัญชีมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ อาจเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จำเป็นต้องมีการตรวจสอบบัญชีของท่าน แล้วให้ท่านแจ้งข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่าน หรือให้ท่านไปดำเนินการทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม อย่าได้หลงเชื่อไปดำเนินการหรือให้ข้อมูลใดๆ โดยเด็ดขาด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนประสานทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร เตรียมผลักดันกลับประเทศต้นทาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป