นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย ประจำเดือนพฤษภาคม 2560 อยู่ที่ระดับ 85.5 ปรับลดลงจากระดับ 86.4 ในเดือนเมษายน โดยปัจจัยกระทบมาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการบริหารต้นทุนของผู้ประกอบการส่งออก ขณะที่ด้านการดำเนินกิจการ ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ยังมีปัญหาเงินทุนหมุนเวียน การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนด้านราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.6 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 100.0 ในเดือนเมษายน เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อภายในประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค และยังพบว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการในเดือนพฤษภาคม ที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมีความกังวลเพิ่มขึ้นได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน สถานการณ์การเมืองในประเทศ ส่วนปัจจัยที่กังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
สำหรับข้อเสนอแนะที่มีต่อภาครัฐในเดือนพฤษภาคม คือ ให้ภาครัฐออกมาตรการเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ พร้อมทั้งผ่อนปรนเงื่อนไขการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงเร่งพัฒนาผลิตภาพแรงงานไทย เพื่อรองรับนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 และส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 99.6 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากระดับ 100.0 ในเดือนเมษายน เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลเกี่ยวกับกำลังซื้อภายในประเทศ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค และยังพบว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการในเดือนพฤษภาคม ที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมีความกังวลเพิ่มขึ้นได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน สถานการณ์การเมืองในประเทศ ส่วนปัจจัยที่กังวลลดลง ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ในระดับทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
สำหรับข้อเสนอแนะที่มีต่อภาครัฐในเดือนพฤษภาคม คือ ให้ภาครัฐออกมาตรการเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ พร้อมทั้งผ่อนปรนเงื่อนไขการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงเร่งพัฒนาผลิตภาพแรงงานไทย เพื่อรองรับนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 และส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน