นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า จากการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เพิ่มหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้แทนพรรคในการสมัครผู้คัดเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองว่า เบื้องต้นอยู่ในระหว่างทำความเข้าใจ เนื่องจากมีการเพิ่มถ้อยคำที่เกี่ยวข้องทั้งการที่ให้ผ่านการพิจารณาจากสาขาพรรค จากผู้แทนประจำจังหวัด จากผู้แทนประจำจังหวัดที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้ง จึงต้องทำให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ ถึงแม้ว่าจะทราบว่ามีความตั้งใจที่และเป็นแนวคิดที่หวังดี แต่ไม่อยู่บนพื้นฐานการปฏิบัติจริง โดยเฉพาะการสรรหาบุคคลภายนอกเข้าสู่ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ส่วนบางพื้นที่ที่ไม่มีสาขาพรรค ก็จำเป็นเร่งจัดตั้ง ซึ่งต้องดูว่าเรื่องดังกล่าวขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในเรื่องของสิทธิ์ในการคัดเลือกผู้แทนของพรรคการเมืองหรือไม่
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง จะมีการนำร่างสัญญาประชาคม ที่จัดทำโดยคณะอนุกรรมการ จัดทำข้อเสนอกระบวนการปรองดอง เปิดเผยต่อสาธารณะได้ภายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบแนวทางการจัดทำร่าง และยังไม่เห็นตัวร่างดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากที่มีการรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ ไปแล้ว ล่าสุดเป็นเพียงการเชิญไปตรวจการสรุปความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ทั้งหมด และหวังว่าคณะกรรมการจะรับฟังสิ่งที่เสนอไป
อย่างไรก็ตาม ตัววัดความสำเร็จในการสร้างความปรองดองที่แท้จริงคือ สถานการณ์บ้านเมืองภายหลังการเลือกตั้ง จะมีความขัดแย้งเหมือนเดิมหรือไม่ และต้องให้ทุกฝ่ายทบทวนตัวเอง และเรียนรู้บทเรียนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงแค่เชิญทุกฝ่ายมาเซ็นเอกสาร
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง จะมีการนำร่างสัญญาประชาคม ที่จัดทำโดยคณะอนุกรรมการ จัดทำข้อเสนอกระบวนการปรองดอง เปิดเผยต่อสาธารณะได้ภายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบแนวทางการจัดทำร่าง และยังไม่เห็นตัวร่างดังกล่าว ซึ่งภายหลังจากที่มีการรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ ไปแล้ว ล่าสุดเป็นเพียงการเชิญไปตรวจการสรุปความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆ ทั้งหมด และหวังว่าคณะกรรมการจะรับฟังสิ่งที่เสนอไป
อย่างไรก็ตาม ตัววัดความสำเร็จในการสร้างความปรองดองที่แท้จริงคือ สถานการณ์บ้านเมืองภายหลังการเลือกตั้ง จะมีความขัดแย้งเหมือนเดิมหรือไม่ และต้องให้ทุกฝ่ายทบทวนตัวเอง และเรียนรู้บทเรียนที่ผ่านมา ไม่ใช่เพียงแค่เชิญทุกฝ่ายมาเซ็นเอกสาร