พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ. เตรียมหาทางควบคุม และตรวจสอบการประกอบธุรกิจสถานบริการออกกำลังกาย หรือฟิตเนส เซ็นเตอร์ อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคที่สมัครเข้าไปใช้ได้รับความเดือดร้อน หลังจากเกิดกรณีผู้ประกอบธุรกิจฟิตเนสบางรายประกาศปิดกิจการโดยที่ไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าได้รับทราบ รวมไปถึงกรณีของผู้ประกอบธุรกิจทำผิดสัญญาด้านต่างๆ ขณะเดียวกัน สคบ. ยังขอความร่วมมือผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกกับธุรกิจนี้ หากพบข้อสงสัยที่อาจเป็นไปได้ว่า ผู้ประกอบกิจการทำผิดสัญญา ก็สามารถเข้ามาแจ้งข้อมูล หรือร้องเรียนกับสคบ. ได้
ทั้งนี้ สคบ. เคยออกประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) เรื่องให้ธุรกิจการให้บริการออกกำลังกายเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554 แต่ที่ผ่านมายังคงมีปัญหาร้องเรียนมายัง สคบ. อยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีการผิดสัญญา ซึ่ง สคบ. ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุย หากไม่ได้ข้อสรุปและผู้บริโภคได้รับความเสียหาย สคบ. จะเป็นผู้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้ ส่วนกรณีการปิดกิจการ บางรายก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกรับทราบ จนเกิดปัญหา ดังนั้น จากนี้ไป สคบ. จะเข้าไปตรวจสอบในภาพรวมทั้งหมด และอาจจะต้องมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ต้องขอดูข้อมูลรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
ทั้งนี้ สคบ. เคยออกประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (คคบ.) เรื่องให้ธุรกิจการให้บริการออกกำลังกายเป็นธุรกิจควบคุมสัญญา ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2554 แต่ที่ผ่านมายังคงมีปัญหาร้องเรียนมายัง สคบ. อยู่ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีการผิดสัญญา ซึ่ง สคบ. ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุย หากไม่ได้ข้อสรุปและผู้บริโภคได้รับความเสียหาย สคบ. จะเป็นผู้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายให้ ส่วนกรณีการปิดกิจการ บางรายก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกรับทราบ จนเกิดปัญหา ดังนั้น จากนี้ไป สคบ. จะเข้าไปตรวจสอบในภาพรวมทั้งหมด และอาจจะต้องมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ต้องขอดูข้อมูลรายละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
