xs
xsm
sm
md
lg

รมช.กห.ประชุมแก้ปัญหา จชต.สร้างความเข้าใจองค์กร-ประชาสังคม-สิทธิมนุษยชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เป็นประธานการประชุมประสานงานระหว่างผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กับกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงแรงงาน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของกลุ่มภารกิจงานที่ 3 เรื่องการสร้างความเข้าใจ ทั้งในและต่างประเทศ และสิทธิมนุษยชน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดการบูรณาการ โดยวันนี้ (9 มิ.ย.) มีการประชุมสร้างความเข้าใจกับองค์กรภาคประชาสังคม องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์การระหว่างประเทศ, การรวบรวมข้อมูลนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในต่างประเทศ, การเสริมสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศ (ประเทศมุสลิม) และการแต่งตั้งผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ ประจำประเทศมาเลเซีย โดยมี พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ผู้แทนพิเศษฯ กลุ่มภารกิจงานที่ 3, พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้แทนพิเศษฯ กลุ่มภารกิจงานที่ 2, คณะที่ปรึกษาหัวหน้าผู้แทนพิเศษฯ, พล.อ.สุทัศน์ จารุมณี หัวหน้าสำนักงาน คปต.ส่วนหน้า, นายวิทวัส ศรีวิหค รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, นายวิชัย คงรัตนชาติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน, พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รองเลขาธิการ ศอ.บต., นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สล.คปต.) และ ผู้แทน กอ.รมน.ภาค 4 สน. เข้าร่วมประชุม
พลเอก อุดมเดช ได้กล่าวว่า จากการปฏิบัติของกระทรวงการต่างประเทศ ในการรับ คณะ OIC และผู้ชี้ขาดทางศาสนาของอียิปต์ รวมถึงการไปชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่กรุงเจนีวา กระทรวงการต่างประเทศได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามีความรอบคอบในการใช้ข้อมูลอย่างชาญฉลาด และมีศักยภาพในการรักษาผลโยชน์ของชาติด้วยวิธีทางการทูต จึงขอให้หน่วยในพื้นที่ ทั้งด้านความมั่นคงและการพัฒนา ให้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศในการสนับสนุนข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย ซึ่งเป็นการบูรณาการการทำงานในการเสริมสร้างความเข้าใจกับต่างประเทศยิ่งๆ ขึ้นต่อไป
สำหรับผลการประชุมเรื่องบทบาทและการเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามที่รัฐบาลได้เปิดโอกาสแก่องค์การระหว่างประเทศ (IGOs) และองค์กรเอกชน (NGOs) จากต่างประเทศ นั้น พบว่า มีบางองค์การเข้ามาดำเนินการในลักษณะที่ขัดแย้งกับแนวทางของภาครัฐและเคลื่อนไหวให้ข้อมูลแก่ประชาชนในสิ่งที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นต่อการดำเนินการตามที่กลไกเดิมได้กำหนดไว้ นั่นคือ กลไกของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนแนวทางของภาครัฐต่อองค์การระหว่างประเทศ (IGOs) และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) ที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น การการพัฒนาความสัมพันธ์ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง การเปิดเผยการดำเนินงานที่มีการเคลื่อนไหวและบทบาททางลบต่อรัฐของขององค์การระหว่างประเทศ (IGOs) และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs)
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างแรงจูงใจนักศึกษาก่อนเดินทางให้มีการเตรียมความพร้อมของตนเองในการเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อสร้างอาชีพ หรือได้คุณวุฒิเพื่อศึกษาต่อ
ส่วนประเด็นการรวบรวมข้อมูลนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในต่างประเทศ เป็นไปเพื่อการดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่นักศึกษา พร้อมกับการสร้างความเข้าใจเพื่อป้องกันการดำเนินกิจกรรมของนักศึกษาที่ส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาของรัฐ จึงให้ความสำคัญในการจัดทำฐานข้อมูลนักศึกษาให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งที่ผ่านมา ศอ.บต. ได้ดำเนินการโดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงศึกษาธิการ สนับสนุนข้อมูล พร้อมกับให้นักศึกษาลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของสถานทูตและสถานกงศุลของไทย

นอกจากนี้ยังมีประเด็นหารือถึงการเสริมสร้างความเข้าใจกับกลุ่มประเทศมุสลิม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งในระดับรัฐบาลและหน่วยงาน ซึ่งสามารถส่งผลต่อการดูแลให้ความช่วยเหลือนักศึกษาและคนไทยที่พำนักในประเทศนั้น และป้องกันการถูกบ่มเพาะจากกลุ่มที่นิยมความรุนแรงในอนาคต ซึ่งที่ประชุมให้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. และ ศอ.บต. ส่งข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และข้อมูลเชิงประจักษ์ต่างๆ ที่ต้องการชี้แจง ตามช่องทางสื่อสารเดิมให้กระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนพิเศษฯ กลุ่มภารกิจงานที่ 3 เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประเทศดังกล่าวต่อไป

สำหรับการแต่งตั้งผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ ประจำประเทศมาเลเซีย ซึ่งผู้แทนพิเศษฯ มีมติเห็นชอบด้วยนั้น ที่ประชุมวันนี้มีมติให้นำข้อเสนอดังกล่าวส่งคณะทำงานโครงสร้างบุคลากรไทยที่ประจำการในต่างประเทศ ของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประชุมพิจารณาในวันที่ 19 มิ.ย.60
กำลังโหลดความคิดเห็น