นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้ (2 ม.ค.) คาดว่าจะมีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง กรมการขนส่งทางบก จึงร่วมกับ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) จัดกิจกรรม "รับคนกลับจากบ้าน" โดยเพิ่มจุดจอดส่งผู้โดยสารในเส้นทางภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ณ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร อีก 1 จุด ตั้งแต่วันที่ 2-6 มกราคมนี้ เวลา 04.00 - 09.00 น. เพื่อลดความแออัด และปัญหาการจราจรในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือหมอชิตใหม่
นอกจากนี้ ยังได้ประสานสหกรณ์แท็กซี่ และ ขสมก. ให้จัดเตรียมรถเพื่อรองรับให้บริการประชาชนที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง รวมถึงจุดจอดพิเศษ กรมการขนส่งทางบก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริการประชาชน บริหารจัดการรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอ และดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งให้เพิ่มเจ้าหน้าที่สายด่วน 1584 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากการใช้บริการรถสาธารณะตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
สำหรับผลการดำเนินการของศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ทั้งทางสายด่วน 1584 และศูนย์ฯ เฉพาะกิจที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง เพื่อรับเรื่องร้องเรียน และให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน เฉพาะวันที่ 1 มกราคม พบการร้องเรียนการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ ตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก 24 ราย อาทิ ขับรถประมาทหวาดเสียว 7 ราย เก็บค่าโดยสารเกินราคา/ขายตั๋วเกินราคา4 ราย ทิ้งผู้โดยสาร/ไม่จอดรับผู้โดยสาร 6 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ/แต่งกายไม่เรียบร้อย 1 ราย บรรทุกผู้โดยสารเกิน 1 ราย เป็นต้น
ส่วนการร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะตาม พ.ร.บ.รถยนต์ มี 158 เรื่อง โดยข้อร้องเรียนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ปฏิเสธผู้โดยสาร 101 ราย ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร 24 ราย แสดงกิริยาไม่สุภาพ 17 ราย ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลง 13 ราย พาอ้อม 8 ราย เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวน และดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป พร้อมกำชับผู้ประกอบการและผู้ขับรถให้บริการทุกคนนำประเด็นร้องเรียนต่างๆ ไปปรับปรุง แก้ไขปัญหาการให้บริการอย่างทันที โดยรถแท็กซี่ที่เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินราคา การปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร และการทิ้งผู้โดยสาร ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด หากพบการกระทำซ้ำซากลงโทษหนักถึงขั้นพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
นอกจากนี้ ยังได้ประสานสหกรณ์แท็กซี่ และ ขสมก. ให้จัดเตรียมรถเพื่อรองรับให้บริการประชาชนที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ทั้ง 3 แห่ง รวมถึงจุดจอดพิเศษ กรมการขนส่งทางบก พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกบริการประชาชน บริหารจัดการรถโดยสารสาธารณะให้เพียงพอ และดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งให้เพิ่มเจ้าหน้าที่สายด่วน 1584 เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากการใช้บริการรถสาธารณะตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
สำหรับผลการดำเนินการของศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ทั้งทางสายด่วน 1584 และศูนย์ฯ เฉพาะกิจที่สถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง เพื่อรับเรื่องร้องเรียน และให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน เฉพาะวันที่ 1 มกราคม พบการร้องเรียนการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะขนาดใหญ่ ตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก 24 ราย อาทิ ขับรถประมาทหวาดเสียว 7 ราย เก็บค่าโดยสารเกินราคา/ขายตั๋วเกินราคา4 ราย ทิ้งผู้โดยสาร/ไม่จอดรับผู้โดยสาร 6 ราย แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ/แต่งกายไม่เรียบร้อย 1 ราย บรรทุกผู้โดยสารเกิน 1 ราย เป็นต้น
ส่วนการร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะตาม พ.ร.บ.รถยนต์ มี 158 เรื่อง โดยข้อร้องเรียนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ปฏิเสธผู้โดยสาร 101 ราย ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร 24 ราย แสดงกิริยาไม่สุภาพ 17 ราย ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลง 13 ราย พาอ้อม 8 ราย เป็นต้น
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาสอบสวน และดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อไป พร้อมกำชับผู้ประกอบการและผู้ขับรถให้บริการทุกคนนำประเด็นร้องเรียนต่างๆ ไปปรับปรุง แก้ไขปัญหาการให้บริการอย่างทันที โดยรถแท็กซี่ที่เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินราคา การปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร และการทิ้งผู้โดยสาร ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ จะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด หากพบการกระทำซ้ำซากลงโทษหนักถึงขั้นพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
