นพ.สุขุม กายจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการสุ่มตรวจเครื่องสำอางตามตลาดนัด การจำหน่ายในอินเทอร์เน็ต หรือตามด่านตรวจสินค้าในปี 2559 พบ มีการใช้สารสเตียรอยด์ ต้องห้ามชนิดรุนแรงมากขึ้น เพื่อหวังผลข้างเคียงของสเตียรอยด์ที่จะช่วยให้ผิวขาวรวดเร็วมากขึ้น โดยไม่รู้ว่า ผิวหนังบริเวณที่ทาครีมดังกล่าว จะมีอาการคัน ผิวแตกลายงา สารที่ว่านี้ คือคลอเบทาซอล (clobetasol) พบมากถึงร้อยละ 10 ซึ่งความเสียหายมีได้ทั้งใบหน้า และลำตัว ในระยะยาวอาจส่งผลต่อกระดูก ทำให้พรุนได้
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเครื่องสำอาง ยังพบสารโลหะหนัก ตะกั่ว ในอายไลนเนอร์ ลิปสติก แต่ไม่รุนแรงมากนัก ขณะเดียวกันยังคงพบสารไฮโดควินโนน ปรอท ในครีมทาผิว แต่น้อยลงมากกว่าแต่ก่อน จึงให้ผู้ผลิตบางรายหาสารตัวใหม่มาทดแทน และมีความรุนแรงมากขึ้นทั้งนี้ วิธีป้องกันสามารถทำได้ ด้วยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ที่มีแหล่งที่มาชัดเจน ทั้งที่อยู่ ที่ตั้ง ตราสัญลักษณ์ อย.ว่าผ่านการตรวจสอบแล้ว
ส่วนการสังเกตทางกายภาพภายนอกของผลิตภัณฑ์ หากพบเนื้อครีมมีการแยกชั้นเป็นตะกอน ควรหลีกเลี่ยงทันที และก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ ควรมีการทาครีมทิ้งไว้ก่อน ที่ท้องแขน ทิ้งไว้ 2 ชม.เพื่อทดลองว่ามีการแพ้หรือไม่
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเครื่องสำอาง ยังพบสารโลหะหนัก ตะกั่ว ในอายไลนเนอร์ ลิปสติก แต่ไม่รุนแรงมากนัก ขณะเดียวกันยังคงพบสารไฮโดควินโนน ปรอท ในครีมทาผิว แต่น้อยลงมากกว่าแต่ก่อน จึงให้ผู้ผลิตบางรายหาสารตัวใหม่มาทดแทน และมีความรุนแรงมากขึ้นทั้งนี้ วิธีป้องกันสามารถทำได้ ด้วยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ที่มีแหล่งที่มาชัดเจน ทั้งที่อยู่ ที่ตั้ง ตราสัญลักษณ์ อย.ว่าผ่านการตรวจสอบแล้ว
ส่วนการสังเกตทางกายภาพภายนอกของผลิตภัณฑ์ หากพบเนื้อครีมมีการแยกชั้นเป็นตะกอน ควรหลีกเลี่ยงทันที และก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ ควรมีการทาครีมทิ้งไว้ก่อน ที่ท้องแขน ทิ้งไว้ 2 ชม.เพื่อทดลองว่ามีการแพ้หรือไม่