นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีอาคารรื้อถอน 8 ชั้นย่านสุขุมวิทถล่มว่า กรมฯ ได้ประสานกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) และวิศวกรรมสถาน(วสท.) เข้าตรวจสอบอาคารรื้อถอนที่ถล่มในซอยสุขุมวิท 87 อีกครั้งแล้ว โดยมีวิศวกรจากสำนักวิศวกรรมโครงสร้างและงานระบบร่วมตรวจสอบด้วย โดย กทม.มีคำสั่งห้ามบุคคลใดเข้าไปในบริเวณอาคารแล้ว เพราะสภาพอาคารส่วนที่เหลืออาจเป็นภยันตราย และอาจพังถล่มลงมาได้อีก
นายมณฑล กล่าวอีกว่า การดำเนินการขั้นต่อไป ทาง กทม.จะออกคำสั่งตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ตามแบบ ค.23 กรณีอาคารที่มีสภาพอาจเป็นภยันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ให้ผู้ดำเนินการต้องรื้อถอนอาคารเป็นไปตามหลักวิชาการที่ดีและต้องกำกับควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการรื้อถอน โดยมีสถาบันที่เชื่อถือได้ที่มีวุฒิวิศวกรโยธาควบคุม การดำเนินการต้องแสดงรายละเอียดวิธีดำเนินการและขั้นตอนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบก่อนรื้อถอน และต้องแล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการ ภายในกำหนด กทม.จะเข้ามา รื้อถอนเอง ทั้งนี้ กทม.ต้องปฏิบัติให้ครบถ้วนทั้งกฎหมายควบคุมอาคารและกฎหมายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
นายมณฑล กล่าวอีกว่า การดำเนินการขั้นต่อไป ทาง กทม.จะออกคำสั่งตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 47 (พ.ศ. 2540) ตามแบบ ค.23 กรณีอาคารที่มีสภาพอาจเป็นภยันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สิน ให้ผู้ดำเนินการต้องรื้อถอนอาคารเป็นไปตามหลักวิชาการที่ดีและต้องกำกับควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการรื้อถอน โดยมีสถาบันที่เชื่อถือได้ที่มีวุฒิวิศวกรโยธาควบคุม การดำเนินการต้องแสดงรายละเอียดวิธีดำเนินการและขั้นตอนให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบก่อนรื้อถอน และต้องแล้วเสร็จภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการ ภายในกำหนด กทม.จะเข้ามา รื้อถอนเอง ทั้งนี้ กทม.ต้องปฏิบัติให้ครบถ้วนทั้งกฎหมายควบคุมอาคารและกฎหมายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย