ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการเร่งพัฒนาท่าเรือที่ กทท.รับผิดชอบ ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งขับเคลื่อนแผนพัฒนาตามแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(East Economic Corridor : EEC) โดยในส่วนความรับผิดชอบของ กทท.นั้นจะเร่งพัฒนาท่าเรือของชาติ โดยไม่ได้คิดดำเนินการอยู่ภายในกรอบว่า มีข้อจำกัดแค่ไหนจะต้องดำเนินการภายในกรอบนั้น แต่จะต้องประมวลสภาพแวดล้อมต่างๆ ประกอบไปด้วยว่า จะสามารถบูรณาการโครงการของหน่วยงานต่างๆ ได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด โดยนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อยากเห็นว่าภายในเดือนธันวาคมปีนี้ กทท.ควรจะพัฒนาไปในทิศทางและรูปแบบใดจึงจะเหมาะสม โดยเฉพาะผลกระทบต่อโครงการแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ที่จะต้องทันสมัย ผลิตสินค้าที่มีพัฒนาการของแต่ละประเภทสินค้า โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากไอทีและนวัตกรรม ตลอดจนด้านบริการเพื่อให้สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้านั้นๆ ได้อย่างไร หากจำเป็นที่จะต้องดำเนินการนอกเหนือจากกรอบที่ กทท.กำหนดไว้ให้นำเสนอพิจารณา เพื่อจะสนับสนุนนโยบายได้อย่างสอดคล้อง หรือช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงตามเป้าหมาย สำหรับรูปแบบการพัฒนาจะนำข้อเด่นของท่าเรือของประเทศต่างๆ มาผสมผสานกัน โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารคาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ เพื่อจะนำเสนอรองนายกรัฐมนตรีต่อไป หลังจากนั้นจึงจะเริ่มศึกษารายละเอียดเชิงลึกต่อเนื่องกันไปทันที
ทั้งนี้ รูปแบบที่โดดเด่นของกลยุทธ์การพัฒนาท่าเรือรูปแบบใหม่ จะเน้นการพัฒนาท่าเรือให้เติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาเมือง ไม่ได้มองเฉพาะผลประกอบการหน้าท่าสำหรับการขนส่งสินค้าเท่านั้น ควรมองผลกระทบด้านอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ควรนำองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีพัฒนาไปพร้อมกัน โดยไม่ต้องเป็นท่าเรือที่เป็นบ่อเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป
ทั้งนี้ รูปแบบที่โดดเด่นของกลยุทธ์การพัฒนาท่าเรือรูปแบบใหม่ จะเน้นการพัฒนาท่าเรือให้เติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาเมือง ไม่ได้มองเฉพาะผลประกอบการหน้าท่าสำหรับการขนส่งสินค้าเท่านั้น ควรมองผลกระทบด้านอื่นๆควบคู่กันไปด้วย ควรนำองค์ประกอบด้านสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีพัฒนาไปพร้อมกัน โดยไม่ต้องเป็นท่าเรือที่เป็นบ่อเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป