นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ร่างแล้วเสร็จว่า โดยหลักการถือว่าสอดคล้องกับข้อเสนอของ กกต.ที่จะให้พรรคการเมืองตั้งยาก อยู่ยาก และยุบยาก ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่การเริ่มต้นพรรคการเมืองคัดกรองเฉพาะคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน อีกทั้งจะทำให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็ง เพราะการยุบพรรคจากการทำความผิดของกรรมการบริหารพรรค ถือเป็นความผิดเฉพาะตัว
นายสมชัย กล่าวว่า ยังมีประเด็นที่ต้องทบทวนเกี่ยวกับกติกาที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างพรรคการเมืองเก่ากับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งต้องไม่มีประเด็นที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่นประเด็นการจัดเก็บเงินค่าสมาชิกพรรค และการหาสมาชิกพรรค โดยได้ให้สำนักงานไปศึกษารายละเอียดเพื่อจัดทำเป็นข้อกำหนดให้พรรคการเมืองเก่า และพรรคการเมืองใหม่ได้ดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เท่าเทียมกัน โดยหลังจากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว เชื่อว่าภายใน 3-4 ปี คาดว่าจะทำให้พรรคการเมืองลดเหลือประมาณ 10 พรรค ที่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ พรรคต้องหาสมาชิกพรรคให้ได้ 2 หมื่นคนและเก็บค่าสมาชิกเงินบำรุงให้ได้พรรคละ 2 ล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นผลดี ทำให้มีพรรคการเมืองจำนวนจำกัด ประชาชนจะได้ศึกษาแต่ละพรรคในการตัดสินใจ แต่อาจมีปัญหาความไม่หลากหลาย ดังนั้นพรรคการเมืองจึงต้องปรับตัว และอาจจะมีการรวมตัวกันของพรรคการเมืองขนาดเล็ก เพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง ส่วนที่กำหนดป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามาครอบงำพรรคการเมืองนั้น มองว่าแม้กฎหมายจะกำหนดไว้ เพื่อป้อมปราม แต่ต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย
นายสมชัย กล่าวว่า ยังมีประเด็นที่ต้องทบทวนเกี่ยวกับกติกาที่ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างพรรคการเมืองเก่ากับพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งต้องไม่มีประเด็นที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่นประเด็นการจัดเก็บเงินค่าสมาชิกพรรค และการหาสมาชิกพรรค โดยได้ให้สำนักงานไปศึกษารายละเอียดเพื่อจัดทำเป็นข้อกำหนดให้พรรคการเมืองเก่า และพรรคการเมืองใหม่ได้ดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำหรือความไม่เท่าเทียมกัน โดยหลังจากร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว เชื่อว่าภายใน 3-4 ปี คาดว่าจะทำให้พรรคการเมืองลดเหลือประมาณ 10 พรรค ที่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ พรรคต้องหาสมาชิกพรรคให้ได้ 2 หมื่นคนและเก็บค่าสมาชิกเงินบำรุงให้ได้พรรคละ 2 ล้านบาท เชื่อว่าจะเป็นผลดี ทำให้มีพรรคการเมืองจำนวนจำกัด ประชาชนจะได้ศึกษาแต่ละพรรคในการตัดสินใจ แต่อาจมีปัญหาความไม่หลากหลาย ดังนั้นพรรคการเมืองจึงต้องปรับตัว และอาจจะมีการรวมตัวกันของพรรคการเมืองขนาดเล็ก เพื่อทำกิจกรรมทางการเมือง ส่วนที่กำหนดป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามาครอบงำพรรคการเมืองนั้น มองว่าแม้กฎหมายจะกำหนดไว้ เพื่อป้อมปราม แต่ต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับใช้กฎหมายด้วย