วันนี้ (4 ธ.ค. ) เป็นวันที่ 35 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อยเดินทางมาต่อคิว เพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ โดยในเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี จากนั้นได้เปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งจากกรุงเทพฯ และจากต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างเนืองแน่น หลายคนยังมีอากาศโศกเศร้า แนบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9ไว้แนบอกตลอดเวลา ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
นางกานต์รวี พิริยะสิริพงศ์ อายุ 60 ปี เดินทางมาจาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยลูกหลาน และญาติรวม 6 คน เปิดเผยว่า ออกเดินทางมาตั้งแต่ตี 2 มาถึง กทม.ตอนตี 4 และมุ่งหน้ามายังสนามหลวงทันที โดยเริ่มเข้าแถวตั้งตี 5 โดยประมาณ กระทั่งได้เข้ากราบพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศตอน 9 โมงเช้า
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังคงมีประชาชนจากทั่วสารทิศทั้งจากกรุงเทพฯ และจากต่างจังหวัด เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างเนืองแน่น หลายคนยังมีอากาศโศกเศร้า แนบพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9ไว้แนบอกตลอดเวลา ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
นางกานต์รวี พิริยะสิริพงศ์ อายุ 60 ปี เดินทางมาจาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยลูกหลาน และญาติรวม 6 คน เปิดเผยว่า ออกเดินทางมาตั้งแต่ตี 2 มาถึง กทม.ตอนตี 4 และมุ่งหน้ามายังสนามหลวงทันที โดยเริ่มเข้าแถวตั้งตี 5 โดยประมาณ กระทั่งได้เข้ากราบพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศตอน 9 โมงเช้า