พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเนื่องในงานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) ณ โรงแรมแชง-กรีล่า โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เวลานี้เป็นช่วงที่คนไทยกำลังอยู่ในความโศกเศร้าเพราะสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัติย์อันเป็นที่รัก ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อคนไทยมาตลอดการครองราชย์ 70 ปี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณผู้แทนหอการค้าและนักลงทุนทุกคนที่ถือเป็นเพื่อนแท้ ไม่ทอดทิ้งกันในยามที่ทุกข์ยาก พร้อมขอให้ทุกคนมั่นใจว่าประเทศไทยยังคงมีเสถียรภาพ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าทำงานตามโรดแมปให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และเป็นสากล พร้อมกับการวางรากฐานของประเทศในระยะยาว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนตัดสินใจดำเนินธุรกิจในไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวก เพราะนักลงทุนต่างชาติมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทย จากการกำหนดให้ปี 2559/2560 เป็นปีแห่งการลงทุนเพื่อก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พร้อมย้ำว่า ภารกิจหลักของรัฐบาลที่เน้นการเติมเต็มในสิ่งที่ประเทศกำลังขาดและปรับโครงสร้างการพัฒนาทุกด้านผ่านแนวทางพัฒนา 2 ด้านหลัก คือการดูแลทุกภาคส่วนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม การเกษตรการพัฒนา เพื่อไห้ไทยก้าวพ้นข้อจำกัด(กับดัก)ประเทศรายได้ปานกลางสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ที่จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประเทศควบคู่ไปกับการดูแลทุกภาคส่วนของประเทศ โดยสภาหอการค้าต่างประเทศและนักลงทุนจากทุกประเทศถือเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของไทยในช่วงเวลานี้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนตัดสินใจดำเนินธุรกิจในไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวก เพราะนักลงทุนต่างชาติมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาประเทศไทย จากการกำหนดให้ปี 2559/2560 เป็นปีแห่งการลงทุนเพื่อก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พร้อมย้ำว่า ภารกิจหลักของรัฐบาลที่เน้นการเติมเต็มในสิ่งที่ประเทศกำลังขาดและปรับโครงสร้างการพัฒนาทุกด้านผ่านแนวทางพัฒนา 2 ด้านหลัก คือการดูแลทุกภาคส่วนให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการดำเนินนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคม การเกษตรการพัฒนา เพื่อไห้ไทยก้าวพ้นข้อจำกัด(กับดัก)ประเทศรายได้ปานกลางสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ที่จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประเทศควบคู่ไปกับการดูแลทุกภาคส่วนของประเทศ โดยสภาหอการค้าต่างประเทศและนักลงทุนจากทุกประเทศถือเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของไทยในช่วงเวลานี้