SORKON ประกาศความพร้อมลุยธุรกิจ QSR เต็มสูบ ดึงมืออาชีพร่วมทีม พร้อมวางระบบรับแผนรุกขยายสาขาทั้งใน และต่างประเทศผ่านแฟรนไชส์ หลังภาพรวม 9 เดือนแรกปีนี้ ทำรายได้รวม 1.95 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 60.15 ล้านบาท
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีแห่งการลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมรุกขยายธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ของกลุ่ม ส.ขอนแก่น ในปี 2560 ภายใต้แบรนด์ “ร้านแซ่บ คลาสสิก” และ “ร้านข้าวขาหมูยูนนาน” ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยดึงผู้บริหารมืออาชีพเข้ามาเสริมทัพสร้างความแข็งแกร่ง พร้อมลงทุนระบบเทคโนโลยีการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับแผนงานการรุกขยายสาขาทั้งในไทย และต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งรูปแบบที่บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเอง และการเปิดขายแฟรนไชส์ให้แก่ผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนเปิดร้านเพิ่มเติม
สำหรับนโยบายการรุกขยายสาขา “ร้านแซ่บ คลาสสิก” ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยอีสานนั้น บริษัทฯ มีแผน ขยายสาขาทั้งในรูปแบบที่บริษัทฯ ลงทุนเอง และการเปิดขายแฟรนไชส์เพื่อผลักการเติบโตต่อจากนี้ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 8 สาขา จะขยายเพิ่มอีก 4 สาขาในปีนี้ แบ่งเป็นการลงทุนเอง 2 สาขาและขายแฟรนไชส์อีก 2 สาขา พร้อมย้ายสาขาไปยังทำเลที่มีศักยภาพ เช่น การย้ายสาขาสีลมไปเปิดที่ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ และเพิ่มเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าคนไทย และชาวต่างชาติ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า เช่น เมนูแกงมัสมั่น ผัดไท ซึ่งส่งผลให้มียอดขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นเท่าตัว
ขณะที่ร้านข้าวขาหมูยูนนานนั้น บริษัทฯ จะเน้นเปิดร้านขนาดเล็กในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนเพียง 89,000 บาท เพื่อรุกเข้าสู่แหล่งชุมชนรองรับแผนขยายธุรกิจ พร้อมปรับเปลี่ยนสาขาเดิมที่มีอยู่ 32 สาขาเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ทั้งหมด รวมถึงจะเพิ่มเมนูอาหารใหม่ๆ ให้มีความหลากหลาย เช่น ติ่มซำ เมนูเกี่ยวกับผักต่างๆ เป็นต้น โดยในไตรมาส 4 นี้ บริษัทฯ จะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ที่ประเทศ สปป.ลาว เพิ่มขึ้นอีก 1 สาขา และกัมพูชา อีก 2 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นปีนี้จะมีสาขาร้านข้าวขาหมูยูนนานในไทย และต่างประเทศ ทั้งสิ้น 35 สาขา
“มองว่าปีนี้ถือเป็นปีแห่งการลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมรุกขยายธุรกิจด้าน QSR ทั้งในด้านบุคลากรที่ดึงมืออาชีพมาร่วมงาน และช่วยวางแผนงานธุรกิจ รวมถึงได้ลงทุนระบบเพื่อรุกขยายร้านในรูปแบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น และปรับเปลี่ยนทำเลร้านไปยังทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งด้วยแนวทางดังกล่าว เชื่อว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจ QSR ของเราให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด”
ซีอีโอ SORKON ระบุว่า จากแผนงานดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขาย และการบริหาร (SG&A) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน 2559) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 60.15 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 84.25 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้มีรายได้รวมอยู่ที่ 1.95 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.74 พันล้านบาท โดยมีปัจจัยจากกลุ่มอาหารพื้นเมือง อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน และกลุ่มร้านอาหารบริการด่วนที่ยังเติบโตได้ดี