ผู้บัญชาการทหารบก นำข้าราชการและประชาชนถวายสัตย์ปฏิญา น้ำตาคลอให้สัมภาษณ์สื่อฯ ชี้เป็นวันสำคัญที่คนไทยได้ร่วมกันถวายความจงรักภักดีเพื่อเป็นประชาชนที่ดีของแผ่นดิน สั่งให้กองทัพขับเคลื่อนโครงการในพระราชดำริสู่กำลังพล รับรู้สึกเหมือนคนไทยที่สูญเสียหลักชัยของชีวิต แต่ต้องสร้างชีวิตให้เข้มแข็งมากขึ้น พร้อมทุ่มเทเพื่อสืบสานปณิธานให้เป็นรูปธรรม
วันนี้ (22 พ.ย.) ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการจัดงานรวมพลังแห่งความภักดี ภายใต้ชื่อ “กิจกรรมปฏิญาณตนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์” เพื่อน้อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ประกาศความจงรักภักดีร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูง สมาคมแม่บ้านทหารบก กำลังพลจาก 16 หน่วยงานและประชาชนจากชุมชนรอบค่ายเข้าร่วมพิธี โดยผบ.ทบ.ได้ร่วมร้องเพลงชาติและถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก่อนจะนำกำลังพลปฏิญาณตนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวนำปฏิญาณตนว่า ตลอดระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ได้ครองราชย์มาเป็นระยะเวลา 70 ปี ขณะนี้ได้เสด็จสู่สวรรคาลัย แต่ยังคงสถิตอยู่ในใจปวงประชาชาวไทย ด้วยความวิปโยคอาลัยอย่างไม่มีวันลืมเลือน ณ วาระนี้ ซึ่งปกติเคยเปล่งสัจวาจาถวายพระพรชัยมงคลเสมอมา จึงขอตั้งสัตยาธิษฐาน ถวายสัตย์ปฏิญาน เป็นเครื่องบูชาพระมหากรุณาธิคุณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะซื่อตรง จงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ จนกว่าชีวิตจะหาไม่ จะปฏิบัติตามหน้าที่พลเมือง เคารพกฎหมาย รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเพื่อพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน รวมทั้งจะปฏิรูปประเทศและสนับสนุนรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ปกครองประเทศด้วยหลักนิติธรรม และธรรมาภิบาลเพื่อประโยชน์สุขแห่งประชาชนชาวไทย
พร้อมทั้งจะเป็นคนดีมีคุณธรรม นำพาประเทศชาติไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน สงบ รู้รักสามัคคี เพื่อชาติ ศาสนา และมหากษัตริย์เพื่อประชาชนต่อไป และจะประพฤติปฏิบัติตามรอยเบื้องพระยุคลบาท และศาสตร์ของะระราชาผู้ทรงธรรม น้อมนำพระราชดำรัสมาเป็นแนวทางดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงต่อไป
จากนั้น พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันสำคัญของพสกนิกรชาวไทยที่มีโอกาสรวมพลังทั่วประเทศเพื่อถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และยังเป็นวันที่พวกเราระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดระยะเวลาครองราชย์ 70 ปีที่ผ่านมาพระองค์ทรงเหนื่อยยากพระวรกายปฏิบัติภารกิจจัดทำโครงการพระราชดำริ 4,600 กว่าโครงการ เพื่อความผาสุกของคนไทยเพื่อความอยู่ดีกินดีของพสกนิกร พระองค์ท่านจะสถิตอยู่ในดวงใจของพวกเราตลอดไป
ทั้งนี้ ระหว่างให้สัมภาษณ์ ผบ.ทบ.ได้มีน้ำตาคลอ ก่อนกล่าวต่อว่าเป็นโอกาสดีของเราที่ได้ปฏิญาณตนเพื่อเป็นประชาชนที่ดีของแผ่นดิน เป็นคนดีของแผ่นดินเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท น้อมนำศาสตร์ของพระราชาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการดำรงชีวิต เราตั้งใจสืบสานปณิธานของพระองค์ท่านเพื่อนำพาประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไม่ว่าพระองค์ท่านจะอยู่ที่ใดก็ตาม พระองค์ท่านจะสถิตอยู่ในดวงใจของพวกเราตลอดไป โดยเราแสดงความจงรักภักดีแสดงความอาลัยแด่พระองค์ และการขับเคลื่อนปณิธานของพระองค์ท่านที่พระราชทานไว้ได้ก้าวต่อไป ในส่วนของกองทัพบกพระองค์ท่านได้เสด็จฯ ไปทุกกองทัพภาคและพระราชทานโครงการไว้จำนวนมาก ตนได้สั่งให้กองทัพทั้ง 4 กองทัพดำเนินการขับเคลื่อนโครงการพระราชดำริของพระองค์ผ่านศูนย์เรียนรู้ ผ่านโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำไปสู่กำลังพล ครอบครัวและประชาชนในพื้นที่รอบข้างโดยเน้นทุกเรื่องที่สำคัญ โดยเฉพาะพระองค์ท่านให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องน้ำ
พล.อ.เฉลิมชัยกล่าวว่า ในความรู้สึกของตนก็เหมือนกับคนไทยทุกคนที่สูญเสียพ่อไป สูญเสียหลักชัยของชีวิต ตรงนี้ทำให้เราต้องสร้างชีวิตให้เข้มแข็งมากขึ้น สิ่งที่พระองค์ท่านพระราชทานไว้จะทำให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงโดยใช้ทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างคุ้มค่าเพื่อให้พัฒนาประเทศอย่างมั่นคงในระยะยาว ในฐานะที่เป็นทหารพร้อมจะทุ่มเททุกอย่าง กำลังพลทั้งหมดเพื่อสืบสานปณิธานให้เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด ซึ่งตรงนี้พิสูจน์แล้วว่าจะทำให้พวกเราเจริญเติบโตไปอย่างมั่นคงยั่งยืน