องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสซิกาที่มียุงลายเป็นพาหะ ไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศอีกต่อไป แต่ ดร.เดวิด เฮย์แมนน์ ประธานคณะกรรมาธิการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลกเห็นว่า เชื้อไวรัสซิกายังเป็นปัญหาสำคัญอย่างสูง และเป็นปัญหาระยะยาว ซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อสามารถมีอาการไข้ การอักเสบของปลอกหุ้มของเส้นประสาทหลายเส้นอย่างเฉียบพลัน ซึ่งสามารถส่งผลให้เป็นอัมพาต หรือแม้แต่กระทั่งเสียชีวิตได้ ขณะที่สตรีมีครรภ์เสี่ยงต่อการคลอดทารกที่มีศีรษะเล็กเกินปกติ
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดเชื้อดังกล่าวเริ่มปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 1.5 ล้านคน ส่วนใหญ่พบอยู่ในบราซิล
นอกจากนี้ ยังพบทารกแรกคลอดศีรษะเล็กกว่าปกติมากกว่า 1,600 คน ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสซิกาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม บราซิลและรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ จะยังคงสถานะคำประกาศภาวะฉุกเฉินต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะสงบ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่พอใจการยกเลิกคำประกาศขององค์การอนามัยโลก เนื่องจากวิตกกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศในซีกโลกใต้ซึ่งเริ่มจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ส่วนวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซิกาจนถึงขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดลอง
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดเชื้อดังกล่าวเริ่มปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 1.5 ล้านคน ส่วนใหญ่พบอยู่ในบราซิล
นอกจากนี้ ยังพบทารกแรกคลอดศีรษะเล็กกว่าปกติมากกว่า 1,600 คน ทำให้องค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสซิกาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม บราซิลและรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ จะยังคงสถานะคำประกาศภาวะฉุกเฉินต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะสงบ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่พอใจการยกเลิกคำประกาศขององค์การอนามัยโลก เนื่องจากวิตกกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศในซีกโลกใต้ซึ่งเริ่มจะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีความเสี่ยงสูง ส่วนวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซิกาจนถึงขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดลอง