พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการเฝ้าระวังน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งขณะนี้ยังมีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งหน่วยงานราชการต่างๆ ให้เตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงดูแลถนนหนทางที่ถูกน้ำท่วมให้ดำเนินการระบายน้ำให้เร็ว และกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งด้วย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งระมัดระวังโรคที่มากับน้ำท่วมด้วย
พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน วางแผนการแจกเครื่องอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องกันหนาว ผ้าห่ม กับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ พื้นที่ห่างไกลให้ทั่วถึง ซึ่งขณะนี้ความกดอากาศต่ำกำลังมาแรง ทำให้ภาคเหนืออากาศเริ่มหนาวเย็น
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น อยากให้หน่วยทหารเข้าไปช่วยเหลือประชาชนเป็นกลุ่มแรก เพราะทหารจะมีอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจราชการที่กระทรวงคมนาคม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น จากนี้ไปนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจราชการทุกกระทรวง ซึ่งไม่ใช่เป็นการจับผิดการทำงานของกระทรวง แต่เป็นการติดตามวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์ที่ได้มอบนโยบายไว้ว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับระบบงบประมาณแบบใหม่ที่ให้ไว้ว่าแต่ละหน่วยงานดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงเรื่องรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งต้องอาศัยฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม จังหวัด ตำรวจ ทหาร ให้ช่วยกันดูแลและขวดขันรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินด้วย เนื่องจากอาจส่งผลให้ ถนนชำรุดทรุดโทรม และรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมแซม ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงต้องช่วยกันตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อรัฐบาลจะได้ไม่ต้องนำภาษีของประชาชนไปใช้ในการซ่อมแซมถนน และจะได้นำเงินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้
พ.อ.หญิง ทักษดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน วางแผนการแจกเครื่องอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องกันหนาว ผ้าห่ม กับประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ พื้นที่ห่างไกลให้ทั่วถึง ซึ่งขณะนี้ความกดอากาศต่ำกำลังมาแรง ทำให้ภาคเหนืออากาศเริ่มหนาวเย็น
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น อยากให้หน่วยทหารเข้าไปช่วยเหลือประชาชนเป็นกลุ่มแรก เพราะทหารจะมีอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตรวจราชการที่กระทรวงคมนาคม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น จากนี้ไปนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจราชการทุกกระทรวง ซึ่งไม่ใช่เป็นการจับผิดการทำงานของกระทรวง แต่เป็นการติดตามวิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์ที่ได้มอบนโยบายไว้ว่าดำเนินการไปถึงไหนแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับระบบงบประมาณแบบใหม่ที่ให้ไว้ว่าแต่ละหน่วยงานดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงเรื่องรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งต้องอาศัยฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม จังหวัด ตำรวจ ทหาร ให้ช่วยกันดูแลและขวดขันรถบรรทุกที่น้ำหนักเกินด้วย เนื่องจากอาจส่งผลให้ ถนนชำรุดทรุดโทรม และรัฐบาลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมแซม ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ดังนั้นจึงต้องช่วยกันตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อรัฐบาลจะได้ไม่ต้องนำภาษีของประชาชนไปใช้ในการซ่อมแซมถนน และจะได้นำเงินไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้
