พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ที่สำนักกรมชลประทานที่ 12 อำเภอสรรพยา จ.ชัยนาท โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดนครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง และจังหวัดอุทัยธานี เข้าร่วม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ให้ความร่วมมือและดูแลประชาชน รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการลงพื้นที่วันนี้เพื่อที่จะลดอุปสรรคที่มีอยู่ โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำที่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติไม่สามารถเข้าไปยืนยัน หรือชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีมาตรการจะดูแลประชาชนอย่างไร เมื่อระบายน้ำไปยังพื้นที่ของประชาชน จึงขอให้ส่วนราชการจัดทำชุดความรู้ และเร่งสร้างความเข้าใจ ถึงมาตรการช่วยเหลือและชดเชยที่รัฐบาลจะดูแลประชาชนผู้เสียสละ และต้องทำความเข้าใจให้ประชาชนพื้นที่ต้นน้ำได้รับรู้ปัญหาของประชาชนในภาคกลางและภาคใต้ที่ต้องเผชิญหากไม่มีการระบายน้ำระหว่างทาง
ขณะที่ในสัปดาห์นี้กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนว่าจะมีมรสุมอีกหลายลูกพัดผ่านประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกภาคส่วนเตรียมแผนรับสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไร หากต้องระบายน้ำในอัตราที่สูงกว่า 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำหลักเกณฑ์ และกำหนดรูปแบบการให้ความช่วยเหลือและชดเชยที่เหมาะสม โดยประชาชนยอมรับได้ในกรณีที่ฤดูกาลเพาะปลูกเสร็จสิ้น หรือฤดูกาลที่ประชาชนไม่สามารถเพาะปลูกได้ให้รัฐใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อใช้กักเก็บน้ำ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณผู้ปฏิบัติงานทุกคนที่ให้ความร่วมมือและดูแลประชาชน รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการลงพื้นที่วันนี้เพื่อที่จะลดอุปสรรคที่มีอยู่ โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำที่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติไม่สามารถเข้าไปยืนยัน หรือชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีมาตรการจะดูแลประชาชนอย่างไร เมื่อระบายน้ำไปยังพื้นที่ของประชาชน จึงขอให้ส่วนราชการจัดทำชุดความรู้ และเร่งสร้างความเข้าใจ ถึงมาตรการช่วยเหลือและชดเชยที่รัฐบาลจะดูแลประชาชนผู้เสียสละ และต้องทำความเข้าใจให้ประชาชนพื้นที่ต้นน้ำได้รับรู้ปัญหาของประชาชนในภาคกลางและภาคใต้ที่ต้องเผชิญหากไม่มีการระบายน้ำระหว่างทาง
ขณะที่ในสัปดาห์นี้กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนว่าจะมีมรสุมอีกหลายลูกพัดผ่านประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทุกภาคส่วนเตรียมแผนรับสถานการณ์ว่าจะดำเนินการอย่างไร หากต้องระบายน้ำในอัตราที่สูงกว่า 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำหลักเกณฑ์ และกำหนดรูปแบบการให้ความช่วยเหลือและชดเชยที่เหมาะสม โดยประชาชนยอมรับได้ในกรณีที่ฤดูกาลเพาะปลูกเสร็จสิ้น หรือฤดูกาลที่ประชาชนไม่สามารถเพาะปลูกได้ให้รัฐใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อใช้กักเก็บน้ำ