นายเลิศชัย ศรีอนันต์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กล่าวว่า ตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ที่คาดการณ์จะมีฝนตกต่อเนื่องจนถึงกลางเดือนตุลาคมนี้ จะไม่ส่งผลกระทบกับกรุงเทพมหานคร เนื่องจากปริมาณน้ำเหนือเริ่มลดลง ประกอบกับกรมชลประทานมีการบริหารจัดการน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ที่ระดับ 15.5 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้การระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยามายังกรุงเทพมหานครจะลดระดับลงตามไปด้วย ขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยามีพื้นที่รับน้ำถึง 3,500 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านที่ระดับ 1,786 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ กรมชลประทานยังเฝ้าระวังปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ระดับน้ำสูงถึง 860 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำที่รับได้เพียง 960 ล้านลูกบาศ์เมตรเท่านั้น ประกอบกับปริมาณน้ำไหลเข้าสูงถึง 47- 49 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนความสามารถในการระบายน้ำออกเต็มพิกัดเพียง 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั้น จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ส่วนเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ระดับน้ำยังไม่น่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม แนะนำประชาชนให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ กรมชลประทานยังเฝ้าระวังปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ระดับน้ำสูงถึง 860 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำที่รับได้เพียง 960 ล้านลูกบาศ์เมตรเท่านั้น ประกอบกับปริมาณน้ำไหลเข้าสูงถึง 47- 49 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่วนความสามารถในการระบายน้ำออกเต็มพิกัดเพียง 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั้น จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ส่วนเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ระดับน้ำยังไม่น่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม แนะนำประชาชนให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฎิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
