นายอรรถพร วัฒนวิสุทธิ์ รองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวภายหลังรับมอบระบบตรวจวัดข้อมูลระยะไกลด้านความปลอดภัยเขื่อน จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (สวทช.) เพื่อแจ้งเตือนและเฝ้าระวังเมื่อเกิดความผิดปกติกับเขื่อนขนาดใหญ่ 14 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณรอบเขื่อน โดยระบบตรวจวัดข้อมูลระยะไกลด้านความปลอดภัยเขื่อน (DS-RMS) สามารถสื่อสารข้อมูลจากเครื่องมือวัดต่างๆ ที่ติดตั้งรอบเขื่อนและอ่างเก็บน้ำแบบอัตโนมัติ จากนั้นจะส่งไปยังระบบคอมพิวเตอร์แม่ข่าย เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลหาสถานะความปลอดภัยเขื่อนด้วยระบบ เสมือนผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะคาดการณ์สาเหตุความผิดปกติของเขื่อน ก่อนแจ้งสถานะผ่านเว็บแอปพลิเคชัน ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับทราบทันทีตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ระบบ DS-RMS ที่จะติดตั้งในเขื่อน 14 แห่ง ใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท และหลังจากนี้ กฟผ.จะประสานกับกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อนำระบบดังกล่าวไปติดตั้งให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียจากเหตุอุทกภัยและแผ่นดินไหว ซึ่งบ่ายวันนี้มีกำหนดเดินทางไปหารือเรื่องนี้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่นครเวียงจันทน์ด้วย
ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนของ กฟผ. ขณะนี้ยังไม่มีเขื่อนใดอยู่ในภาวะวิกฤต แม้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเขื่อนภูมิพลรายงานระดับกักเก็บน้ำอยู่ที่ร้อยละ 47 ของความจุเขื่อน ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ที่ร้อยละ 73 ของความจุเขื่อน ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศ ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่าร้อยละ 50
ทั้งนี้ ระบบ DS-RMS ที่จะติดตั้งในเขื่อน 14 แห่ง ใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท และหลังจากนี้ กฟผ.จะประสานกับกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อนำระบบดังกล่าวไปติดตั้งให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียจากเหตุอุทกภัยและแผ่นดินไหว ซึ่งบ่ายวันนี้มีกำหนดเดินทางไปหารือเรื่องนี้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่นครเวียงจันทน์ด้วย
ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนของ กฟผ. ขณะนี้ยังไม่มีเขื่อนใดอยู่ในภาวะวิกฤต แม้มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเขื่อนภูมิพลรายงานระดับกักเก็บน้ำอยู่ที่ร้อยละ 47 ของความจุเขื่อน ส่วนเขื่อนสิริกิติ์ อยู่ที่ร้อยละ 73 ของความจุเขื่อน ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศ ยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่าร้อยละ 50
