ขีปนาวุธหลายถูกกระหน่ำยิงลงสู่พื้นที่ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏในเมืองอเลปโปของซีเรียเมื่อวันศุกร์(23ก.ย.) ในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอันหนักหน่วง ซึ่งก่อความเสียหายล้างผลาญในวงกว้างและสังหารไปหลายสิบชีวิต ขณะที่กองทัพรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด กำลังเตรียมพร้อมจู่โจมทางภาคพื้นเพื่อเข้าควบคุมเมืองแห่งนี้โดยสมบูรณ์
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีสำนักงานในอังกฤษเผยว่ามีพลเรือนเกือบ 30 คน ในนั้นหลายรายเป็นเด็ก เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในปฏิบัติการโจมตีโดยเครื่องบินรบของรัสเซียและรัฐบาลซีเรีย ส่วนทางรอยเตอร์อ้างคำสัมภาษณ์ของอัมมาร์ อัล เซลโม หัวหน้าหน่วยป้องกันพลเรือนอเลปโป ระบุว่าการทิ้งบอมบ์อย่างหนักหน่วงในพื้นที่ทางตะวันออกของเมือง ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏ เข่นฆ่าผู้คนมากกว่า 70 ศพและทำลายอาคารอย่างน้อย 40 หลังนับตั้งแต่ช่วงเช้าวันศุกร์(23ก.ย.)
เครื่องบินรบของรัสเซียและรัฐบาลซีเรียทิ้งบอมบ์ถล่มเขตต่างๆที่อยู่ภายใต้ของการยึดครองของกบฏในอเลปโปอย่างหนักหน่วงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันศุกร์(23ก.ย.) หลังจากกองทัพประกาศเปิดปฏิบัติการโจมตียึดเมืองใหญ่ที่สุดของซีเรียช่วงก่อนสงคราม กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์
ความหนักหน่วงของการโจมตี ซึ่งยังรวมไปถึงห่ากระสุนปืนใหญ่และทิ้งระเบิดถังน้ำมันโดยเฮลิคอปเตอร์ ได้นำความทุกข์ทรมานสู่พลเรือนราว 250,000 คนที่ถูกกองทัพปิดล้อม
สถานการณ์ที่ลุกลามมีขึ้นหลังจากนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในเงื่อนไขของการกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงที่พังครืน หลังมอสโก ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากวอชิงตันที่ต้องการคำสัญญาว่ารัฐบาลซีเรียจะหยุดปฏิบัติการทางอากาศในทันที
สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างกลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งมีสำนักงานในอังกฤษเผยว่ามีพลเรือนเกือบ 30 คน ในนั้นหลายรายเป็นเด็ก เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในปฏิบัติการโจมตีโดยเครื่องบินรบของรัสเซียและรัฐบาลซีเรีย ส่วนทางรอยเตอร์อ้างคำสัมภาษณ์ของอัมมาร์ อัล เซลโม หัวหน้าหน่วยป้องกันพลเรือนอเลปโป ระบุว่าการทิ้งบอมบ์อย่างหนักหน่วงในพื้นที่ทางตะวันออกของเมือง ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏ เข่นฆ่าผู้คนมากกว่า 70 ศพและทำลายอาคารอย่างน้อย 40 หลังนับตั้งแต่ช่วงเช้าวันศุกร์(23ก.ย.)
เครื่องบินรบของรัสเซียและรัฐบาลซีเรียทิ้งบอมบ์ถล่มเขตต่างๆที่อยู่ภายใต้ของการยึดครองของกบฏในอเลปโปอย่างหนักหน่วงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในวันศุกร์(23ก.ย.) หลังจากกองทัพประกาศเปิดปฏิบัติการโจมตียึดเมืองใหญ่ที่สุดของซีเรียช่วงก่อนสงคราม กลับคืนมาอย่างสมบูรณ์
ความหนักหน่วงของการโจมตี ซึ่งยังรวมไปถึงห่ากระสุนปืนใหญ่และทิ้งระเบิดถังน้ำมันโดยเฮลิคอปเตอร์ ได้นำความทุกข์ทรมานสู่พลเรือนราว 250,000 คนที่ถูกกองทัพปิดล้อม
สถานการณ์ที่ลุกลามมีขึ้นหลังจากนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในเงื่อนไขของการกอบกู้ข้อตกลงหยุดยิงที่พังครืน หลังมอสโก ปฏิเสธข้อเรียกร้องจากวอชิงตันที่ต้องการคำสัญญาว่ารัฐบาลซีเรียจะหยุดปฏิบัติการทางอากาศในทันที