พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีสื่อโซเชียลโจมตีบุตรชายคนโตของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ได้รับงานก่อสร้างของกองทัพภาคที่ 3 จำนวนกว่า 26 ล้านบาท ว่า บุตรของ พล.อ.ปรีชา ประมูลโครงการก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ของกองทัพภาคที่ 3 จังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ค่ายพ่อขุนผาเมือง และก่อสร้างตึกแถวนายทหารประทวน 10 ครอบครัว ของโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ จ.ตาก เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้อง ประมูลผ่านวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding)
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ที่สังคมสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนามสกุลจันทร์โอชา แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเขาด้วย ใครประมูลได้ก็ได้ทำ ทำไมเป็นลูก พล.อ.ปรีชา ประมูลไม่ได้หรือ ถ้าประมูลแล้วราคาถูก สเปกได้ก็ได้ไป การประมูลผ่าน e-Bidding ไม่เห็นหน้าไม่เห็นตัว ได้ก็เรื่องของเขา และข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีห่วงน้องชาย ตนก็ไม่ทราบ เพราะเป็นการพูดกันระหว่างพี่กับน้อง แต่เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่บานปลาย
ส่วนหากพรรคการเมืองจะนำกรณีบุตรชายของ พล.อ.ปรีชา ไปเป็นบรรทัดฐาน ให้คนนามสกุลเดียวกันประมูลงานของรัฐทำได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูว่าเห็นควรขนาดไหน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับตามกฏหมาย ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ที่สังคมสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนามสกุลจันทร์โอชา แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวเขาด้วย ใครประมูลได้ก็ได้ทำ ทำไมเป็นลูก พล.อ.ปรีชา ประมูลไม่ได้หรือ ถ้าประมูลแล้วราคาถูก สเปกได้ก็ได้ไป การประมูลผ่าน e-Bidding ไม่เห็นหน้าไม่เห็นตัว ได้ก็เรื่องของเขา และข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีห่วงน้องชาย ตนก็ไม่ทราบ เพราะเป็นการพูดกันระหว่างพี่กับน้อง แต่เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่บานปลาย
ส่วนหากพรรคการเมืองจะนำกรณีบุตรชายของ พล.อ.ปรีชา ไปเป็นบรรทัดฐาน ให้คนนามสกุลเดียวกันประมูลงานของรัฐทำได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูว่าเห็นควรขนาดไหน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับตามกฏหมาย ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา