นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการออกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดผลประโยชน์ส่วนตนขัดกับผลประโยชน์ส่วนรวม หรือ กฎหมาย 4 ชั่วโคตร ว่า จะเป็นกฎหมายปราบโกงอย่างแท้จริง ที่จะสามารถเอาผิดกับข้าราชการที่ทำทุจริต ตั้งแต่ตัวข้าราชการที่ทุจริต บุตร บิดามารดา และพี่น้อง ซึ่งไม่ได้จ้องจับผิดการทุจริตเฉพาะในกรณีเล็กๆ เท่านั้น แต่เป็นการตรวจสอบการดำเนินการของราชการในทุกขั้นตอน ซึ่งจะทำให้เกิดความหวาดกลัวที่จะทำการทุจริตในทุกระดับ
นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และอยู่ในระหว่างการรับฟังความเห็นจากข้าราชการในกระทรวงต่างๆ ก่อนที่จะมีการรวบรวมความเห็นกลับมาที่คณะรัฐมนตรี เพื่อส่งต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผลักดันเป็นกฎหมายภายในปีนี้
ทั้งนี้ นายวิษณุ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีที่มีการนำเอาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไปเทียบเคียงกับกรณีการชนะประมูลโครงการก่อสร้างในกองทัพภาคที่ 3 ของบุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดของกรณีดังกล่าว อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ยังไม่มีผลบังคับใช้ จึงไม่สามารถนำมาเทียบเคียงกับกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้
นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และอยู่ในระหว่างการรับฟังความเห็นจากข้าราชการในกระทรวงต่างๆ ก่อนที่จะมีการรวบรวมความเห็นกลับมาที่คณะรัฐมนตรี เพื่อส่งต่อให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผลักดันเป็นกฎหมายภายในปีนี้
ทั้งนี้ นายวิษณุ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีที่มีการนำเอาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไปเทียบเคียงกับกรณีการชนะประมูลโครงการก่อสร้างในกองทัพภาคที่ 3 ของบุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดของกรณีดังกล่าว อีกทั้งร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ยังไม่มีผลบังคับใช้ จึงไม่สามารถนำมาเทียบเคียงกับกรณีที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้