พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลเข้ามาบริหารราชการในช่วงที่ประเทศเผชิญสถานการณ์ ทั้งในและนอกประเทศหลายด้าน จึงเร่งวางแนวทางการทำงานเป็นระยะต่างๆ ภายใต้หลักบริหารราชการด้วยหลักธรรมาภิบาล ระยะแรกเป็นการดำเนินการเรื่องเร่งด่วน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง การออกกฎหมาย พร้อมวางแนวทางปฏิรูปทั้งระบบ โดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทำให้ตัวเลขทางเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีหลายด้าน บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อยมีเสถียรภาพ เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ ทั้งแง่ของการป้องกันการทุจริต การเป็นประเทศที่มีความทุกข์ยากน้อยที่สุด และเป็นประเทศน่าลงทุน อีกทั้งยังทำให้งานสำคัญ เช่นการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งรัฐบาลกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ จนประเทศไทยได้ปรับระดับที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแนวทางการพัฒนาและหลักสันติวิธี และที่สำคัญ คือการปฏิรูปการศึกษา เน้นการวิจัยพัฒนาสร้างนวัตกรรมใหม่ เพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทย ที่เชื่อมโยงกับการปฏิรูประบบการเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม รวมถึงการการวางแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงไทยสู่ภูมิภาคและการทำงานวางรากฐานของประเทศ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจการทำงานของรัฐบาล ที่จะต้องผลักดันพัฒนาประเทศไปข้างหน้า
ส่วนในระยะเวลากว่า 1 ปีข้างหน้า คือการวางรากฐานสู่อนาคตตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการสร้างความเข้มแข็งสู่ภูมิภาค และการเตรียมการเพื่อส่งต่อการทำงานและการปฏิรูปให้รัฐบาลชุดต่อไป
นอกจากนี้ ยังแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยแนวทางการพัฒนาและหลักสันติวิธี และที่สำคัญ คือการปฏิรูปการศึกษา เน้นการวิจัยพัฒนาสร้างนวัตกรรมใหม่ เพิ่มมูลค่าให้สินค้าไทย ที่เชื่อมโยงกับการปฏิรูประบบการเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม รวมถึงการการวางแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงไทยสู่ภูมิภาคและการทำงานวางรากฐานของประเทศ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจการทำงานของรัฐบาล ที่จะต้องผลักดันพัฒนาประเทศไปข้างหน้า
ส่วนในระยะเวลากว่า 1 ปีข้างหน้า คือการวางรากฐานสู่อนาคตตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการสร้างความเข้มแข็งสู่ภูมิภาค และการเตรียมการเพื่อส่งต่อการทำงานและการปฏิรูปให้รัฐบาลชุดต่อไป