นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ หรือ FAA (Federal Aviation Administration ) และสำนักงานบริหารความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป หรือ EASA (European Aviation Safety Agency ) ออกประกาศห้ามใช้งานหรือชาร์จแบตเตอรีโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ Samsung รุ่น Galaxy Note7 บนอากาศยาน และห้ามโหลดใส่กระเป๋าใต้ท้องอากาศยานว่า ทอท. ในฐานะผู้บริหารท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขอความร่วมมือผู้โดยสาร อย่านำโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวโหลดใส่กระเป๋าที่เก็บไว้ใต้ท้องอากาศยาน เพื่อความปลอดภัยของอากาศยาน และผู้โดยสาร
นอกจากนี้ ทอท.ขอความร่วมมือผู้โดยสาร ห้ามนำอุปกรณ์ที่มีขนาดของแบตเตอรี่ลิเธียมเกินกว่าที่กำหนดขึ้นอากาศยาน โดยแบ่งเป็นแต่ละประเภท ได้แก่ 1.ประเภทแบตเตอรีสำรอง (Spare) เช่น Power Bank ได้กำหนดค่าความจุไฟฟ้า ดังนี้ (1) ค่าความจุไฟฟ้า 100Wh หรือ 20,000 mAH หรือปริมาณลิเธียมไม่เกิน 2 กรัม อนุญาตให้นำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ (2) ค่าความจุไฟฟ้า 100 – 160Wh หรือ 20,000 – 32,000 mAH หรือปริมาณลิเธียมไม่เกิน 2 – 8 กรัม นำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น โดยต้องได้รับอนุญาตจากสายการบิน และ (3) ค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160Wh หรือ 32,000mAH หรือปริมาณลิเธียมมากกว่า 8 กรัม ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบิน และแบตเตอรี่สำรองทุกชนิด (Spare Battery) ไม่อนุญาตให้โหลดใส่กระเป๋าไว้ใต้ท้องอากาศยาน
2. ประเภทแบตเตอรีที่อยู่ในอุปกรณ์ (Portable Electronic Device : PED) เช่น แบตเตอรีสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ Laptop Hoverboard และ Airwheel ได้กำหนดค่าความจุกำลังไฟฟ้า ดังนี้ (1) ความจุไฟฟ้าไม่เกิน 100Wh หรือ 20,000mAH หรือปริมาณลิเธียมไม่เกิน 2 กรัม สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ทั้งในสัมภาระติดตัวและสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง (2) ความจุไฟฟ้าไม่เกิน 100 – 160Wh หรือ 20,000 – 32,000mAH หรือปริมาณลิเธียมระหว่าง 2 – 8 กรัม สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ทั้งในสัมภาระติดตัวและสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง แต่ต้องได้รับอนุญาตจากสายการบิน และ (3) ค่ากำลังไฟฟ้ามากกว่า 160Wh หรือ 32,000mAH หรือปริมาณลิเธียมมากกว่า 8 กรัม ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบิน ทั้งนี้ ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นไปตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การพาแบตเตอรี่ลิเธียมไปกับอากาศยาน พ.ศ.2559
นอกจากนี้ ทอท.ขอความร่วมมือผู้โดยสาร ห้ามนำอุปกรณ์ที่มีขนาดของแบตเตอรี่ลิเธียมเกินกว่าที่กำหนดขึ้นอากาศยาน โดยแบ่งเป็นแต่ละประเภท ได้แก่ 1.ประเภทแบตเตอรีสำรอง (Spare) เช่น Power Bank ได้กำหนดค่าความจุไฟฟ้า ดังนี้ (1) ค่าความจุไฟฟ้า 100Wh หรือ 20,000 mAH หรือปริมาณลิเธียมไม่เกิน 2 กรัม อนุญาตให้นำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ (2) ค่าความจุไฟฟ้า 100 – 160Wh หรือ 20,000 – 32,000 mAH หรือปริมาณลิเธียมไม่เกิน 2 – 8 กรัม นำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น โดยต้องได้รับอนุญาตจากสายการบิน และ (3) ค่าความจุไฟฟ้ามากกว่า 160Wh หรือ 32,000mAH หรือปริมาณลิเธียมมากกว่า 8 กรัม ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบิน และแบตเตอรี่สำรองทุกชนิด (Spare Battery) ไม่อนุญาตให้โหลดใส่กระเป๋าไว้ใต้ท้องอากาศยาน
2. ประเภทแบตเตอรีที่อยู่ในอุปกรณ์ (Portable Electronic Device : PED) เช่น แบตเตอรีสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ Laptop Hoverboard และ Airwheel ได้กำหนดค่าความจุกำลังไฟฟ้า ดังนี้ (1) ความจุไฟฟ้าไม่เกิน 100Wh หรือ 20,000mAH หรือปริมาณลิเธียมไม่เกิน 2 กรัม สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ทั้งในสัมภาระติดตัวและสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง (2) ความจุไฟฟ้าไม่เกิน 100 – 160Wh หรือ 20,000 – 32,000mAH หรือปริมาณลิเธียมระหว่าง 2 – 8 กรัม สามารถนำขึ้นเครื่องได้ ทั้งในสัมภาระติดตัวและสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง แต่ต้องได้รับอนุญาตจากสายการบิน และ (3) ค่ากำลังไฟฟ้ามากกว่า 160Wh หรือ 32,000mAH หรือปริมาณลิเธียมมากกว่า 8 กรัม ไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องบิน ทั้งนี้ ข้อกำหนดดังกล่าวเป็นไปตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การพาแบตเตอรี่ลิเธียมไปกับอากาศยาน พ.ศ.2559